วันนี้มีโอกาสได้มาสัมภาษณ์สองสาวสวยอดีตนักประชาสัมพันธ์ด้านธุรกิจการเงิน ที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจทางด้านเกษตรและต่อยอดพัฒนามาทำสกินแคร์ นัยนา ยังเกิด และ ปรียานันท์ แสงดี ทั้งคู่สนใจงานทางด้านการเกษตร ตั้งแต่ยังทำงานประจำ เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ยั่งยืน จึงได้ร่วมกันสร้างกระท่อมฟาร์มเห็ดที่ย่านบางบัวทองมาจนครบ 10 ปี ขึ้นสู่ปีที่ 11 พร้อมกับได้ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณค่ามากขึ้น
ปรียานันท์ หนึ่งในหุ้นส่วนกระท่อมเห็ดฟาง กล่าวว่า ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทางด้านสกินแคร์เป็นเซรั่มบำรุงผิวจากเห็ดสีชมพูชื่อว่าโรเซลอน -Roselon โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนาอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และร่วมกับคณะเภสัขกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้วิจัยและพัฒนาคุณสมบัติของเห็ดนางนวลสีชมพูที่มีสรรพคุณดีเยี่ยมหลายประการทั้งการกินเพื่อลดน้ำตาลในเลือด ช่วยปรับความดันโลหิต ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็ง มีวิตามินซี มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ทั้งยังมีผลดีทางด้านผิวพรรณก็คือ เห็ดมีความชื้นและอุ้มน้ำกักเก็บน้ำสูงเมื่อใช้กับผิวจะทำให้ผิวชุ่มชื้น เหมือนให้น้ำกับผิว ลดการอักเสบ ลดการระคายเคืองในผิวหนัง ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ แผลที่เกิดจากสิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น
ทางด้านนัยนา กล่าวว่า เธอสนใจงานทางด้านเกษตรมานาน มองว่าเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน เพราะประเทศไทยเติบโตมาจากเกษตรกรรม หลายประเทศก็มองว่าไทยเป็นครัวของโลก เมื่อทำธุรกิจก็อยากทำในสิ่งที่ชอบและเชื่อว่ามั่นคงยั่งยืน อย่างกระท่อมฟาร์มเห็ดที่เธอทำมานั้น ตลอด 10 ปีก็มีแนวโน้มที่ดีมาโดยตลอด เธอสามารถต่อยอดเป็นสินค้าแปรรูปได้หลายชนิด ทางด้านอาหารเช่น ข้าวเกรียบเห็ด แหนมเห็ด น้ำพริกเห็ด เห็ดอบกรอบ น้ำเอ็นไซม์จากเห็ด และทำร้านอาหารที่ใช้เห็ดเป็นเมนูหลัก เช่น ทอดมันเห็ด พิซซ่าเห็ด ขนมจีบเห็ด
“เมื่อเราพัฒนาต่อยอดทางด้านอาหารจากเห็ดมาพอประมาณแล้ว เราก็คิดว่าน่าจะออกผลิตภัณฑ์อื่นๆได้อีก จนได้มาเจอกับผู้ใหญ่ที่กรมพัฒนาอุตสาหกรรม และอาจารย์ที่เภสัชจุฬา ท่านเมตตาวิจัยและพัฒนาจนได้สูตรเซรนั่มน้ำนมจากเห็ดนางนวลสีชมพู ใช้เวลาคิดค้นปรับสูตรทดลองกันมาเกือบครึ่งปี จนออกมาเป็นโรเซลอน ซึ่งเราลงทุนเอง ค่อยๆ ทำตัวแรกออกมาจำหน่ายได้ 2 เดือนกว่า ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ทำให้เรามั่นใจยิ่งขึ้น เราทำการตลาดเอง ขายเองผ่านเฟซบุ้ค แฟนเพจ ติ้กต๊อก ไลน์โอเอช่่องทางออนไลน์ทุกรูปแบบ ค่อยทำค่อยเติบโตเพราะเราต้องการสร้างให้ยั่งยืน ไม่ลงทุนกับใคร ทำกับหุ้นส่วนเดิมกันแค่ 2 คน ใช้เงินที่มีไม่กู้เงินมาทำ”
ปรียานันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีหน้าจะออกผลิตภัณฑ์เพิ่มในช่วงต้นปี คือครีมบำรุงผิวสำหรับกลางวันและกลางคืน ช่วงกลางปี จะออกครีมกันแดด ลิปมัน และอายครีม “เราเน้นทางด้านสกินแคร์เป็นหลักให้ครบวงจร เพื่อผลลัพธิ์ที่ดีขึ้น เพราะการดูแลผิวพรรณให้ดูดีเป็นเรื่องที่ผู้หญิงให้ความสำคัญ ผู้ชายก็เริ่มสนใจตัวเองกันมากขึ้น เป็นเซรั่มที่ซึมซาบเร็วเบาบางไม่เหนียวเหนอะหนะ เราจะอยู่ในสายเห็ดให้ครบวงจร นึกถึงเห็ดต้องนึกถึงเรา นอกจากเห็ดสีชมพูที่มีสรรพคุณที่ดีแล้ว เราก็ยังมีเห็ดสีเหลืองที่ในอนาคตก็จะพัฒนาสรรพคุณกันต่อไป”
ทั้งสองสาวกล่าวถึงทิศทางการทำงานในอนาคตว่า เน้นความพอเพียง เรียบง่าย แต่ต้องยั่งยืนมั่นคง “เพราะมีความตั้งใจให้มันอยู่นานๆเพราะตอนนี้เราก็ไม่ได้ทำงานประจำ ออกมาทำตรงนี้เต็มตัวมันคืออนาคตที่เราต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด ตอนที่ทำกระท่อมฟาร์มเห็ดใหม่ๆก็ไปอบรมด้านการทำเห็ดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พอทำเซรั่มเห็ดเราก็ร่วมกับคณะเภสัชจุฬา ทำอย่างมีองค์ความรู้มีการวิจัยพัฒนาเพราะอยากให้สิ่งที่ทำมานั้นดีที่สุด” นัยนา กล่าวทิ้งท้ายด้วยความมุ่งมั่น