Monday 7 October 2024 | 3 : 07 am

‘พาว’ มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสมุนไพร ส่งเรือธง ‘พาว ชูการ์ คิว’ ลุยตลาด ชูจุดเด่น ‘ลดน้ำตาล-คอเลสเตอรอล-ไขมันในเส้นเลือด-ลดการอักเสบ-ต้านเสื่อม’

แบรนด์พาว มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสมุนไพรเพื่อสุขภาพ จับมือกับ มหาวิทยาลัยพะเยา พัฒนาต่อยอดงานวิจัยการเลี้ยงสาหร่ายสายพันธุ์สไปรูลินา Platensis ด้วยกรรมวิธี เทคโนโลยี บลู สเปียร่า พบสามารถลดน้ำตาล คอเลสเตอรอล ไขมันในเส้นเลือด ได้สูงถึง 4 เท่า ลดการอักเสบ ต้านเสื่อมได้ดี จนนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ “พาว ชูการ์ คิว” ตั้งเป้าเป็นเรือธงแห่งปี หวังช่วยยกระดับสุขภาพของคนไทยและคนทั่วโลก เผยไตรมาส 1 ปี 2567 ลุยตลาด Skincare เตรียมออกสินค้าใหม่ 3-4 ตัว

ดร.อธิชาติ ชุมนานนท์

ดร.อธิชาติ ชุมนานนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พาว มิราเคิล จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในการทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยพะเยาว่า การเกิดขึ้นของนวัตกรรม บลู สเปียร่า (Blue Spira) เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท พาว มิราเคิล จำกัด ร่วมกับ มหาวิทยาลัยพะเยา ในการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยการเลี้ยงสาหร่ายสายพันธุ์สไปรูลินา Platensis ด้วยกรรมวิธีพิเศษที่เรียกว่า เทคโนโลยี บลู สเปียร่า

โดยบริษัท พาว มิราเคิล จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าวจึงได้ให้การสนับสนุนการพัฒนางานวิจัย พร้อมนำงานวิจัยมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ ทำให้งานวิจัยไม่เป็นงานวิจัยขึ้นหิ้งอีกต่อไป โดยทางมหาวิทยาลัยพะเยาได้ทำการวิจัยและเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 200 กว่าคนเป็นเวลา 3 เดือน พบว่า บลู สเปียร่า สามารถช่วยลดความเสื่อม ลดน้ำตาล คอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือด ได้สูงถึง 4 เท่า

“ไขมันในเส้นเลือดและสมอง ถือเป็นตัวการร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับต้นๆ โดยมีน้ำตาลเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำคนไทยเสียชีวิต เพราะน้ำตาลทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบได้ เมื่อเราอักเสบมากๆ จึงกลายเป็นมะเร็ง”

นอกจากนี้ เมื่อวิจัยต่อเนื่องเฟส 2 พบว่าสามารถลดการอักเสบและต้านเสื่อมได้จริง อีกทั้งไม่ส่งผลเสียต่อตับและไต ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวยังได้รับการรับรองจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ด้วย

จากความสำเร็จในการวิจัยดังกล่าว ได้นำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ “พาว ชูการ์ คิว” เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้นและทำให้คนไทยป่วยน้อยลง แข็งแรงมากขึ้น

“แบรนด์ พาว มิราเคิล เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสมุนไพร (Innovation herb) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มาช่วยแก้ปัญหาและส่งเสริมสุขภาพคนไทยแบบยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์ สามารถพิสูจน์ผลลัพธ์ได้ด้วยงานวิจัย ให้คุณค่าแก่ผู้บริโภคและสังคม พร้อมผลักดันและเพิ่มมูลค่าให้สมุนไพรไทย เพื่อการส่งออกสู่ตลาดโลก อย่าง เทคโนโลยี บลู สเปียร่า ทำให้เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์ “พาว ชูการ์ คิว” จะเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านสุขภาพที่ช่วยยกระดับสุขภาพของคนไทยและคนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี”

ดร.อธิชาติ ได้กล่าวถึงแผนการขยายไลน์สินค้าในอนาคตว่า ในไตรมาสแรกปี 2567 แบรนด์ พาว มิราเคิล จะออกสินค้าประเภท Skincare ประมาณ 3-4 ตัว โดยทำจากสมุนไพรที่ผ่านการวิจัยมาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับช่องทางการจำหน่ายแบรนด์ พาว มิราเคิล มีทั้งผ่านตัวแทนจำหน่ายทั้ง 5 ทีม และบริษัทจำหน่ายเอง โดยมีสัดส่วน 30 ต่อ 70 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจำหน่าย admin หรือเจ้าหน้าที่ของแบรนด์ พาว มิราเคิล ต่างถูกเทรนเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพมาเป็นอย่างดี สามารถให้คำปรึกษากับลูกค้าในเรื่องสุขภาพได้อย่างเฉพาะเจาะจง

นพวริทธิ์ โกมลวุฒิสิทธิ์

นพวริทธิ์ โกมลวุฒิสิทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง บริษัท พาว มิราเคิล จำกัด กล่าวว่า แบรนด์พาว มิราเคิล เปิดตัวสินค้าครั้งแรกเมื่อปี 2563 ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ พาว มิราเคิล อย่าง พาว น้ำพลูคาว, พาว ชูการ์ คิว, พาวโปรตีน, พาว เอส คอฟฟี่, พาวเมาท์สเปรย์, พาวเฮอร์เบิลแคปซูล, พาวเดอร์ล่า สมุนไพรพลูคาวแบบผง เป็นต้น

สำหรับยอดขายในปี 2566 คาดว่าจะมีมูลค่า 400 ล้านบาทหรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 100% โดยในปี 2566 สินค้าเรือธงสำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ “พาว ชูการ์ คิว” ซึ่งปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้ 10% ของยอดขายทั้งบริษัท

ด้านแนวทางการทำตลาดของแบรนด์พาว มิราเคิล คือ การมุ่งเน้นการใช้พืชเป็นยา อาหารเป็นยา เพื่อลดการใช้ยาเคมีในการรักษาป้องกันโรคเรื้อรัง เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยลดปริมาณการทานยาเคมีลงได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยสินค้าแบรนด์ พาว มิราเคิล เหมาะทั้งผู้ป่วยและผู้ที่ไม่ป่วยแต่ต้องทานอาหารเสริมเพื่อได้รับสารอาหารครบตามหลักโภชนาการ

นอกจากนี้ ในปีนี้จะขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น จากเดิมกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ พาว มิราเคิล เป็นผู้หญิง อายุ 45 ปีขึ้นไป ก็หันมาขยายกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ผ่านสินค้าพาวโปรตีน, พาว เอส คอฟฟี่, พาวเมาท์สเปรย์ เป็นต้น