เริ่มแล้ว! “InterCare Asia 2023 และ Wellness & Travel Fair 2023”งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่สำหรับทุกวัยครบวงจร จัดโดยบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วยสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) รวมถึงภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-2 ก.ย. 2566 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
โดยมี นายภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กระทรวงสาธารณสุข ประธานในพิธี กล่าวเปิดงาน “InterCare Asia 2023 และ Wellness & Travel Fair 2023” ตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีจำนวนผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งประชากรผู้สูงอายุในปี 2565 นั้นมีมากถึง 12,116,199 คน ทำให้ภาครัฐมีความจำเป็นเข้ามาดูแลประชาชนในกลุ่มดังกล่าว รวมถึงการสนับสนุนให้สังคมมีความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน หรือที่เรียกว่า Aging in place เพื่อให้ผู้สูงอายุอยู่กับครอบครัว ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ และคนในครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สนใจดูแลรักษาสุขภาพในเชิงรุก ผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้ามาช่วยเสริมเพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย และอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญ คือ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่า เป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพหลักของเอเชีย และเป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ
“การจัดงานในครั้งนี้ จะทำให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาและต่อยอดคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยในภาคส่วนต่างๆ เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนของภาคสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในระดับสากลด้วย” นายภัทรพล กล่าว
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการบริหาร บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ความมุ่งมั่นเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellness Hub) เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและมีการเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เป็นเป้าหมายที่ 3 ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ซึ่งสหประชาชาติร่วมกันกำหนดขึ้นเพื่อเป็นวาระการพัฒนาระดับโลกที่ต้องบรรลุให้ได้ภายในปี 2030 ความสำคัญคือ มีผลโดยตรงต่อปัจเจกบุคคล ซึ่งจะส่งผลต่อไปยังชุมชน สังคม เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และ ประเทศ ในขณะเดียวกันการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 1.5 พันล้านคนภายในปี 2050 คิดเป็น 21% ของประชากรโลก 7,300 ล้านคน จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจเพื่อสุขภาพ และผู้สูงอายุมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง งาน “InterCare Asia” ในปีนี้จะมีความพิเศษกว่าทุกปี เพราะนอกจากจะได้พบกับการรวมตัวของผู้ประกอบการชั้นนำกว่า 150 บริษัทจากธุรกิจอาหารสุขภาพ และความงาม บริการด้านสุขภาพ (Healthcare) การดูแลผู้สูงอายุ (Nursing Home) บริการนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) ธุรกิจผลิตและให้บริการด้านอุปกรณ์ เครื่องมือกายภาพ ที่พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการในการเตรียมความพร้อมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าสำหรับทุกวัยแล้ว
ภายในงานยังมีการเสวนา และกิจกรรมมากมาย เพื่อการพัฒนาสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม ต้อนรับผู้เข้าชมงานทั้งจากภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป พร้อมมอบโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านโซลูชันและเทคโนโลยีในการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนทุกวัย ได้แก่ สินค้าไลฟ์สไตล์และความเป็นอยู่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อุปกรณ์และสินค้าเพื่อความงาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ และฟื้นฟูสมรรถภาพ การวางแผนเพื่อเกษียณ และที่อยู่อาศัยและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ อีกทั้งยังมีกิจกรรมเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้ง B2B2C ได้แก่ B2B กลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สูงวัย ที่จะได้พบกับเทคโนโลยีที่เป็นสินค้านวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ เพื่อการขยายโอกาสทางธุรกิจ และ B2C กลุ่มในการวางแผน เตรียมความพร้อมสู่วัยเกษียณ การหาโซลูชั่นเพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน การเลือกซื้อสินค้าบริการ แพ็คเกจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เพื่อการดูแลสุขภาพทางร่างกาย และจิตใจ นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดกิจกรรม CSR ประดิษฐ์ลูกบีบกุ๊กไก่ เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อนิ้วมือ เพื่อมอบให้ผู้สูงวัยในชุมชนต่าง ๆ โดยทุก ๆ การบริจาค 50 บาท จะได้ลูกบีบกุ๊กไก่ 1 ตัว จึงขอเชิญชวนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งร่วมในการมอบความห่วงใยให้กับผู้สูงอายุได้มีรอยยิ้มและมีสุขภาพที่ดีขึ้น
โดยการจัดงาน InterCare Asia 2023 ในปีนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ของ ส.ส.ว ในการสนับสนุนกิจกรรมการตลาดสำหรับผู้ประกอบการด้วยการเข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน InterCare Asia 2023 ครั้งนี้
“ในปีนี้เราได้รับเกียรติจากสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย ในการนำงาน Wellness & Travel Fair 2023 ซึ่งเป็นงานประจำปี ที่รวมของสมาชิกสมาคม เพื่อนำเสนอแพ็คเกจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ มาร่วมจัดเป็นงานคู่ขนานด้วย พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมมือกับวารสาร O-lunla ในการร่วมจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ สำหรับผู้สูงอายุ ในโซน Share & Care ภายในงาน รวมทั้งงาน Export Garment Fair โดยสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย รวมถึงการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพันธมิตร อย่าง สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล Prompt Care Academy อสมท. FM 96.5” นายศักดิ์ชัย กล่าว
ขณะที่ พญ.ประภา วงศ์แพทย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย กล่าวว่า งานแสดงสินค้าสุขภาพและท่องเที่ยว Wellness & Travel Fair 2023 ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งจัดร่วมกับงาน InterCare Asia 2023 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการตลาด และการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ ภายในงานจะมีการนำเสนอโปรแกรมการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ รวมทั้งโปรแกรมแพ็คเกจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น จากนั้นท่องเที่ยวในและต่างประเทศ นอกจากนี้ในงานยังได้จัดเวทีให้ความรู้ และแบ่งปันประสบการณ์แนวคิดเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และให้เกิดความมั่นใจในแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะยุคหลังการระบาดของโวรัส Covid-19 การจัดงานในครั้งนี้ สมาคมฯ ได้รับสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สถาบันการสร้างชาติ (NBI) วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต สมาคมแพทย์อายุรเวทแผนไทยประยุกต์แห่งประเทศไทย
นายพิตรพิบูล ธีร์จันทึก ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) กล่าวถึงการสนับสนุนการจัดงาน “InterCare Asia 2023” ว่า เรามีภารกิจในการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ให้เติบโตในวิถีใหม่ และยั่งยืน มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตร ผู้มีแนวคิดสอดคล้องร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมในการสนับสนุน ต่อยอดด้วยการส่งเสริมทางการตลาด ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพ การท่องเที่ยว และความเป็นอยู่สำหรับทุกวัยแบบครบวงจร และ InterCare Asia 2023 x Wellness & Travel Fair 2023 ในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นพื้นที่ของการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ให้ต่อยอด และเพิ่มช่องทางการตลาดด้วยการออกบูธแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้า อีกทั้งยังจะเป็นเวทีการพบปะเจรจาทางธุรกิจทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่จะช่วยปลุกตลาดการค้าให้คึกคักหลังจากที่ซบเซาลงเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาจากภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19
เมื่อวิกฤตการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME อย่างเร่งด่วน อาทิ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ได้สนับสนุนงบประมาณผ่าน โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือที่รู้จักในชื่อ SME ปัง ตังค์ได้คืน ซึ่งเป็นการสนับสนุนเงิน 50–80% ผ่านการอบรม การโค้ชชิ่ง (Coaching) การให้คำปรึกษาแนะนำ (Consult) รวมทั้งการขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมอบให้ ISMED เป็นผู้ดำเนินการและการจัดงานทั้ง 2 ในครั้งนี้ถึงถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้รวมถึงต่อยอดธุรกิจให้มีความเข้มแข็งได้
ด้านนายชาติชาย เทพแปง ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย (TMWTA) ในการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ ที่มีความพร้อมในการจัดงานแสดงสินค้า โดยภายในงานจะเน้นธุรกิจสุขภาพทันสมัย ผู้ดำเนินการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ โรงพยาบาล คลินิกสุขภาพและความงาม การแพทย์ทางเลือก โรงแรม รีสอร์ท บริษัทนำเที่ยว และบริการที่เกี่ยวข้อง และนวัตกรรม สินค้าและบริการเพื่อผู้ใส่ใจสุขภาพและผู้สูงวัย พร้อมนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สำหรับทุกวัยครบวงจร กว่า 100 ราย
การสนับสนุนงาน Wellness & Travel Fair 2023 อยู่ภายใต้การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศ (Domestic Exhibition) โดยทีเส็บสนับสนุนในเรื่องกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business matching) ให้คำปรึกษาร่วมวางกลยุทธ์การขยายตลาด ขยายกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเจรจาธุรกิจและพัฒนาศักยภาพการจัดงานแสดงสินค้าให้ได้มาตรฐาน อีกทั้งตั้งเป้าหมายให้เป็นการจัดงานในรูปแบบมาตรฐานที่เรียกว่า Trade Exhibition โดยคาดว่าตลอดระยะเวลา 3 วันของการจัดงาน จะมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 2,000 ราย และมีมูลค่าซื้อขายภายในงานไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท
ในส่วนกิจกรรมของ “O-lunla” นิตยสารชั้นนำสำหรับผู้สูงวัย ได้เปิดพื้นที่พิเศษเพื่อแบ่งปันความห่วงใย และร่วมแบ่งปันกำลังใจ ในโซน “Share & Care แค่รักยังไม่พอ” ได้แก่ หัวข้อ Share & Care ตอน Stroke-Strong โดยคุณพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง หัวข้อ Zumba ส่ายสะบัดโรค โดย ครูหนุ่ม ยอดชาย ยมะคุปต์ หัวข้อการออมและการลงทุนเพื่อตัวเองและครอบครัวที่เรารัก โดย คุณเสกสรร โตวิวัฒน์ กองทุนบัวหลวง หัวข้อ Fit & Firm ออกกําลังกายด้วยจานกระดาษ โดย ดร.ชลชัย อานามนารถ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล หัวข้อ รู้ใจสมอง ท้าชนความเหงา โดย ผศ.ดร.กบ. ศุภลักษณ์ เข็มทอง คณะกายภาพบําบัด มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ เว็บไซต์ www.intercare-asia.com หรือ เฟซบุ๊กแฟนเพจ : InterCare Asia