บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมการออกแบบสิ่งทอ ศิลปะที่คงมนต์ขลังของชาวไท ถึง 23 ชนชาติกระจายอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไกลถึงรัฐอัสสัม (อินเดียตะวันออก) บันทึกภาพถ่ายกว่า 206 ภาพ ซึ่งเรียบเรียงโดยนายฮั้นส์ โรเอลส์ ช่างภาพชาวเบลเยี่ยม และนางนภาจรี สวนเดือนฉาย นักสะสมสิ่งทอชาวไท พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ที่สำนักพิมพ์ริเวอร์ บุ๊คส์ กรุงเทพฯ
โรงเรียนสอนทำอาหารและภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ โดยมาสเตอร์เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนทำอาหาร และมาสเตอร์เชฟแห่งภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ ความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารไทยให้ทั่วโลกได้ลิ้มลองอาหาร ‘รสชาติไทยแท้’ มากว่า 40 ปี ร่วมกับสำนักพิมพ์ริเวอร์ บุ๊คส์ กรุงเทพฯ จัดกิจกรรมเปิดตัวหนังสือ ‘TAI, A Woven Culture’ ผลงานชิ้นสำคัญของนายฮั้นส์ โรเอลส์ ช่างภาพชาวเบลเยียม และนางนภาจรี สวนเดือนฉาย นักสะสมสิ่งทอชาวไท ร่วมกันถ่ายทอดอัตลักษณ์และเรื่องราวการเดินทางของผ้าไหม ‘ไท’ วัฒนธรรมการออกแบบสิ่งทอ ศิลปะที่คงมนต์ขลังของชาวไทกว่า 23 ชนชาติ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไกลถึงรัฐอัสสัม (อินเดียตะวันออก) ผ่านบันทึกภาพถ่ายกว่า 206 ภาพ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเรียบเรียงเนื้อหาด้วยการอ้างอิงเอกสารต่าง ๆ โดยละเอียดกว่า 25 ปี
เรื่องราวของ ‘TAI, A Woven Culture’ เริ่มต้นบันทึกเรื่องราวของเส้นทางสายวัฒนธรรมแห่งสายไหมของ ชาว ‘ไท’ หลังจากที่ นายฮั้นส์ โรเอลส์ ช่างภาพชาวเบลเยียม ผู้ที่หลงใหลวัฒนธรรมที่หลากหลายของเมืองไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ออกเดินทางเพื่อถ่ายภาพในภาคเหนือของประเทศไทย และได้พบกับ นางนิ่ม-นภาจรี สวนเดือนฉาย นักสะสมสิ่งทอชาวไท ผู้ที่คลุกคลีกับผ้าทอมาตั้งแต่วัยเยาว์ ผู้บริหาร Prayer Textile Gallery ในกรุงเทพฯ และยังเป็นผู้ก่อตั้ง “กลุ่มนักสะสมผ้าไท” และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง “สมาคมผ้าทอไท” ที่เลือกเดินตามรอยเท้าแม่สืบทอดธุรกิจผ้าทอของครอบครัวที่ดำเนินการมาหลายชั่วอายุคน
พวกเขาได้เดินทางไปยังชุมชนชาวไท ทั่วประเทศไทย ลาว เวียดนาม เมียนมาร์ จีนตอนใต้ และรัฐอัสสัมของอินเดีย ซึ่งชาว ‘ไท’ คือ ชนพื้นเมืองที่อพยพจากจีนมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ก่อตั้งอาณาจักรไทอยู่ร่วมกันตลอดหลายศตวรรษ ซึ่งสิ่งที่รวมชาวไททุกคนไว้ด้วยกันคือวัฒนธรรมการทอผ้าที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ผ้าไหม เส้นใยสีเหลืองที่มีลักษณะเรียบและหนา ผ่านกรรมวิธีการถักทอด้วยมือเป็นลวดลายอันทรงคุณค่าที่ไร้กาลเวลา เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันผ่านงานฝีมือและสีสันผ้าทอ ซึ่งศิลปินที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ล้วนเป็นชาวนาที่มีวิถีชิวิตเรียบง่าย ดำรงชีพด้วยการปลูกข้าว และเลี้ยงไหมเพื่อเป็นเครื่องนุ่งห่ม สะท้อนวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของพวกเขา
โดยระหว่างการเดินทางทั้ง 2 ยังได้พบกับชนกลุ่มน้อยที่ไม่ใช่ชาวไท ซึ่งคนเหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขาระหว่างหุบเขาของไทยและอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคนก่อนการอพยพของชาวไท พวกเขาได้ร่วมแบ่งปันวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และน่าหลงใหล สิ่งทอที่โดดเด่นของพวกเขา นอกจากผ้าไหมอันล้ำค่าและวัฒนธรรมการทอผ้าที่ปรากฏในหนังสือแล้ว บุคคลต่าง ๆ ในภาพล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ผ้าทอที่มีชีวิตอันงดงามเหล่านี้ได้อย่างน่าทึ่ง และประวัติศาสตร์ที่ภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการรักษาและถ่ายทอดวัฒนธรรมอันงดงามของชาว ‘ไท’ เพื่อให้ยังคงอยู่ตราบชั่วลูกชั่วหลาน
นายฮั้นส์ โรเอลส์ กล่าวว่า “สิ่งที่คุณมีจริงๆ คือผู้คนที่มีส่วนร่วมด้วยหัวใจ และให้ความมั่นใจและไว้วางใจอย่างเต็มที่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจมากและประทับใจฉันอย่างมากในโครงการนี้ และหนังสือเล่มนี้ทำให้คุณเป็นพยานถึงวัฒนธรรมที่หายไปอย่างรวดเร็วอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากความทันสมัยทำให้คนรุ่นใหม่ไม่เลือกศิลปะการทอผ้าที่ใช้เวลานานอีกต่อไป อย่างไรก็ตามฉันมีความสุขมากที่ได้เริ่มโครงการนี้ทันเวลาและแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของวัฒนธรรมที่สวยงามและน่าจดจำ ซึ่งหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะนำคุณเข้าใกล้ ‘ชาวไท’ และแก่นแท้ของ ‘ไท’
นางนภาจรี สวนเดือนฉาย กล่าวว่า “การค้นพบผ้าทอ ‘ไท’ เหล่านี้ทำให้ฉันนึกถึงความงามของคนเหล่านี้ที่เป็นชาวนาและผู้ที่สร้างสรรค์งานที่สวยงามผ่านผ้าของพวกเขา และแสดงเอกลักษณ์และศักดิ์ศรีของความเป็น ‘ไท’ อย่างแท้จริง”
นายฮั้นส์ โรเอลส์ กล่าวเสริมว่า “TAI, A Woven Culture ได้จัดพิมพ์เป็นหนังสือปกแข็งเล่มใหญ่ยักษ์ ขนาด 29.5*32.9 ซม. จำนวน 348 หน้า ภาพประกอบกว่า 206 ภาพ พิมพ์สี่สีคุณภาพสวยงามที่สวีเดน ปกแข็ง เย็บกี่ริบบิ้นขั้น และผ่านการรับรองโดย FSC (Forest Stewardship Council) ไม่เคลือบผิวและไม่ฟอกขาว และผ่านกระบวนการพิมพ์ด้วยพลังงานลม 100% จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสั่งพิมพ์และจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ริเวอร์ บุ๊คส์ ในราคา 3,200 บาท และขอขอบคุณ บลู เอเลเฟ่นท์ BYWIND MUNKEN Thaicafe ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) และวีวา แอนด์ อาวีฟ เดอะ ริเวอร์ ที่ร่วมสนับสนุนการการจัดทำหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2566 ได้เปิดหนังสือตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ได้การตอบรับและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง นายฮั้นส์ กล่าวในที่สุด
ผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างสรรค์หนังสือ TAI, A Woven Culture กรุณาติดต่อ คุณฮั้นส์ โรเอลส์ เบอร์โทรศัพท์ 095 060 6117 หรือ +32 496 25 37 73 หรืออีเมล:memo@hansroels.com และสำหรับผู้สนใจสั่งซื้อหนังสือ กรุณาติดต่อสำนักพิมพ์ริเวอร์ บุ๊คส์ เบอร์โทรศัพท์ 02 225 0139 หรือ 098 495 4142 หรือ https://www.facebook.com/riverbooksbk
เกี่ยวกับนายฮั้นส์ โรเอลส์ และนางนภาจรี สวนเดือนฉาย
นายฮั้นส์ โรเอลส์ (Mr. Hans Roles) เป็นช่างภาพชาวเบลเยียม ผู้ซึ่งผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และงานฝีมือไว้ในงานศิลปะที่อุดมสมบูรณ์ของเขา มีความกระตือรือร้นที่จะสำรวจวัฒนธรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทั้งในเบลเยียมและในทุกส่วนของโลก โดยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการด้านวัฒนธรรมและงานมอบหมายต่าง ๆ มีผลงานภาพถ่าย นิทรรศการ และหนังสือที่สวยงามและทรงพลัง สามารถติดตามผลานของเขาได้ที่ www.hansroels.com
นางนภาจรี สวนเดือนฉาย (นิ่ม) เป็นนักสะสมผ้าไท มาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจผ้าทอมาหลายชั่วอายุคน เธอเดินตามรอยเท้าแม่ของเธอและบริหาร Prayer Textile Gallery ในกรุงเทพฯ และเป็นผู้ก่อตั้ง “กลุ่มนักสะสมผ้าไท” และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง “สมาคมผ้าทอไท” ในกรุงเทพฯ