ใครที่ชื่นชอบขนมหวานเชิญทางนี้เลยจร้า!! Life Diary มีคาเฟ่ขนมไทยตำรับชาววังมาแนะนำ ร้านนี้ชื่อว่า CHADA Tea Boutique (ชฎา ที บูติค) ตั้งอยู่ที่โซนสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม ซึ่งถือเป็นสาขาแรกและสาขาเดียวในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้
CHADA Tea Boutique เป็นร้านขนมที่ได้รับการส่งต่อสูตรจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่คุณยายเจ้าทิพย์เกสร ณ ลำปาง จนถึงรุ่นปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การดูแลของ นัฐพงษ์ ท้วมเกร็ด ทายาทรุ่นที่ 5 ความพิเศษของขนมไทยร้านนี้เกิดจากการผสมผสานสูตรชาววัง เข้ากับสูตรของคุณย่าที่ทำร้านขนมขายอยู่ที่จังหวัดนครปฐม จนเกิดเป็นเมนูขนมหวานต้นตำรับชาววัง และเป็นขนมไทยสูตรประยุกต์ที่มีการปรับเปลี่ยนให้ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น โดยลดความหวานลง 40 เปอร์เซ็นต์
ดังนั้น จุดเด่นของขนมไทยตำรับชาววังของร้าน ชฎา ที บูติค จึงอยู่ที่รสชาติซึ่งหวานกำลังดี และยังหอมกรุ่นกลิ่นควันเทียน แต่ละเมนูเป็นขนมไทยที่หาทานยาก อาทิ
หินฝนทอง ขนมไทยโบราณที่เป็นเหมือน Energy Ball ในยุคนี้ ด้วยความที่ทำจากข้าวหอมมะลิตากแห้ง คั่วกับน้ำกะทิ และน้ำตาลจึงให้พลังงานแบบอัดแน่น อดีตขนมชนิดนี้นิยมให้ทหารพกติดตัวไปกินยามต้องเดินทางไกลหรือยามมีศึกสงคราม
ขนมบัวหิมะ ขนมไทยสูตรอร่อย มาพร้อมความสวยงามของการปั้นแต่งที่วิจิตรบรรจง
ทองชมพูนุช ถูกจัดอยู่ในขนมมงคลโบราณ มาพร้อมรสอร่อยที่หวานกำลังดี กลิ่นหอมอบควันเทียน
เสน่ห์จันทร์ ขนมชื่อไพเราะที่นิยมใช้ในงานมงคล เป็นขนมทรงกลมแบนเลียนแบบ ‘ลูกจัน’ ผลของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่เมื่อสุกจะมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอม
ผกากรอง มีที่มาของชื่อจากตัวดอกที่สวยงามคล้ายดอกผกากรอง โดยขั้นตอนในการทำนั้นต้องละเมียดละไมค่อนข้างมาก ด้วยการต้องค่อยๆ จับจีบทีละกลีบเพื่อให้ได้กลีบดอกที่สวยงาม
นอกจากนี้ ยังมีเมนูขนมไทยที่เราคุ้นเคยอีกมากมายอย่าง ฝอยทอง, ทองหยอด, ขนมกล้วย, ขนมต้ม, ขนมเหนียว, ถั่วแปบ, ขนมชั้น หรือข้าวต้มมัด ซึ่งทุกเมนูของร้านล้วนทำสดใหม่ด้วยสองมือของคนที่รักขนมไทย ภายใต้สูตรที่ส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น และทำแบบวันต่อวัน ทำให้มีขนมไทยกว่า 20 เมนูที่สามารถยกเสิร์ฟและหมุนเวียนกันไปตามวัตถุดิบที่มีเพื่อให้ได้รสชาติอร่อยละมุนที่สุด
นอกจากขนมไทยสูตรต้นตำรับแล้ว CHADA Tea Boutique ยังมีขนมไทยประยุกต์อีกหลายอย่าง เช่น อาลัวชีส และอาลัวทุเรียน ขนมไทยสูตรประยุกต์ที่กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเด่นของทางร้าน ที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกด้วย
สำหรับเครื่องดื่มแนะนำ จะเป็นอัญชันมะนาวโซดาที่มาตัดกับความหวานของขนมได้ลงตัว หรือจะเป็นชาดำผสมพีช, ชาสตรอว์เบอร์รี่และมะม่วง หรือชาวานิลลา ซึ่งเมื่อรับประทานขนมหวาน พร้อมกับเสิร์ฟชาสูตรพิเศษของทางร้านซึ่งมีกลิ่นหอมและรสชาติดีด้วยแล้ว บอกคำเดียวเลยว่าเข้ากั๊น เข้ากัน
โดยปกติแล้วทางร้านจะเปิดเป็นบุฟเฟต์ขนมไทยในราคา 99 บาท/คน สามารถนั่งได้ 50 นาที แต่ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ทางร้านจึงเปิดบุฟเฟต์เป็นบางวัน ดังนั้น คุณลูกค้า inbox เข้ามาเช็คเวลา หรือจองคิวล่วงหน้าได้ที่เพจ CHADA Tea Boutique – ชฎา (ชฎา ที บูติค) เลยจร้า!! ส่วนใครที่อยากซื้อกลับบ้าน หน้าร้านก็มีขนมไทยขายปกตินะ
เวลาปกติ (ถ้าเปิดเป็นบุฟเฟต์) จะมีวันละ 4 รอบ รอบละ 20 ท่าน ตามเวลาดังนี้
รอบที่ 1 : 12.00-13.00 น.
รอบที่ 2 : 14.00-15.00 น.
รอบที่ 3 : 16.00-17.00 น.
รอบที่ 4 : 18.00-19.00 น.
ราคาบุฟเฟต์ 99 บาท/คน เฉพาะขนมไทย ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม ผู้ที่สนใจสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่าน inbox เพจ chada pavilionได้เลย