Friday 29 March 2024 | 9 : 14 pm

วรวิมล ปทุมมาลย์ลักขณา จาก ‘นักวิ่งแฟนซี’ สู่ ‘เวทีนางงาม’…ตั้งเป้าหมายไว้ แล้วไปให้ถึง

ในแวดวงคนรักการวิ่ง ไตรกีฬา หรือนักกีฬาแฟนซี น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักชื่อของ ‘พี่ตุ่นแฟนซี’ หรือ ตุ่น-วรวิมล ปทุมมาลย์ลักขณา (วัย 51 ยังแจ๋ว) เจ้าของกิจการ ‘ร้านคลังแบตเตอรี่ OK’ ซึ่งอยู่ที่ ต.ยายชา อ.สามพราน จ.นครปฐม และเป็นร้านที่ลูกค้ารู้จักเป็นอย่างดี

ที่ผ่านมาพี่ตุ่นเริ่มลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง เมื่อลงสนามแข่งวิ่งและแข่งไตรกีฬามาหลายสนาม เธอก็ได้แรงบันดาลใจในการแต่งตัวแฟนซีลงแข่งกีฬาต่างๆ ที่กล่าวมา กระทั่งคว้ารางวัลมามากมาย และเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น

แต่ความฝันของเธอยังไม่จบลงแค่การมีสุขภาพดีและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนเพียงแค่นั้น ล่าสุดพี่ตุ่นท้าทายตัวเองจากการเป็นนักกีฬาแฟนซี โดยหันมาเล็งเป้าหมายบนเวทีนางงามจนสำเร็จตามที่ตั้งใจ เพราะได้รางวัลจากเวทีนางงามที่แต่งงานแล้วมาหมาดๆ นั่นก็คือ ตำแหน่งนางงามมิตรภาพ จากเวที Mrs.Noble Queen Thailand 2020 เมื่อเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา ลองไปฟังพี่ตุ่นอัพเดตเรื่องราวของเธอกันเลย

“อาชีพปัจจุบันของดิฉันก็คือ เป็นเจ้าของกิจการ ‘ร้านคลังแบตเตอรี่ OK’ ซึ่งขายปลีกและส่งแบตเตอรี่รถยนต์ครบวงจร ตั้งแต่แบตเตอรี่เล็กที่ใช้กับมอเตอร์ไซค์ จนถึงแบตเตอรี่ใหญ่ที่ใช้กับรถบัส โดยร้านจะเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-19.30 น. นอกเหนือจากการดูแลบริหารกิจการแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่เป็นพลังบวกซึ่งเติมเต็มให้กับชีวิต นั่นคือกิจกรรมการแข่งขันในวันอาทิตย์อย่าง การวิ่ง การปั่น และไตรกีฬา ที่สำคัญดิฉันยังเป็นนักกีฬาแฟนซี (นักกีฬาที่ต้องแต่งชุดสีสันสวยงาม แปลกตาลงแข่งขัน เพื่อสร้างรอยยิ้ม มิตรภาพ และกำลังใจให้นักกีฬาในสนามแข่งมีความสุข) อีกด้วย สิ่งที่ตุ่นแฟนซีไม่เหมือนใคร ก็คือการแต่งชุดแฟนซีลงแข่งขันกีฬาทุกประเภท แบบไม่ซ้ำชุด เรียกว่าตอนนี้ มีชุดแฟนซี รวมทั้งอุปกรณ์พร็อบต่างๆ มากมาย จนเป็นที่มาในการทำห้องแฟนซี เพื่อเก็บสะสมของให้เป็นสัดส่วน และจากเรื่องราวดังกล่าวนี้ ทำให้ดิฉันได้รับรางวัลการแต่งชุดมากมายจากสนามแข่งต่างๆ มากกว่า 200 ถ้วย รวมทั้งได้รับการบันทึกสถิติ ได้รับใบ Certificate จาก Thailand Records จำนวน 2 ใบ อย่างเป็นทางการ

ใบแรก ได้รับเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 เป็นใบประกาศ เป็นคนไทยคนแรกที่แต่งชุดแฟนซีลงแข่งขันกีฬามากที่สุดในประเทศไทยในการแข่งวิ่ง แข่งปั่นจักรยาน แข่งไตรกีฬา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ใบที่สอง ได้รับเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 เป็นใบประกาศ คนไทยคนแรกที่สะสมชุดและองค์ประกอบชุดมากที่สุดในประเทศไทย จำนวน 3,560 ชิ้น

ทำให้ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจในผลงานทุกอย่างที่ทำมา เพราะได้มาจากสิ่งที่ชอบและทำในสิ่งที่ใช่ จนได้รับการบันทึกสถิติอย่างเป็นทางการ และสิ่งที่มีความสุขต่อกิจกรรมอีกอย่างก็คือ การที่ดิฉันนำชุดแฟนซีที่ใส่ลงแข่งขัน มาใส่ขายของเพื่อสร้างสีสันในงานบริการให้กับลูกค้าที่มาซื้อแบตเตอรี่ มีรอยยิ้มและมีความสุขอย่างตื่นตาตื่นใจ เพราะเรากล้าที่จะทำ ขายทั้งสินค้า และรอยยิ้ม ความสุขของลูกค้าคือหัวใจของการบริการที่ดีค่ะ”

ตุ่นแฟนซี เป็นผู้หญิงเก่งที่ทำอะไรแล้วต้องสุดกับทุกเรื่องราวและมั่นใจกับสิ่งที่ทำ สมัยเรียนเธอก็ได้เกียรติ นิยมอันดับ 1 พอจบมา ทำงานเป็นครู ก็ได้รับรางวัลครูดีเด่น และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ ก็ได้รางวัลนักธุรกิจและการพัฒนาการตลาด 8 ปีซ้อน พอเข้ามาสู่วงการกีฬาเธอก็สุดกับกิจกรรม จนได้รับรางวัลมากมาย️

“ดิฉันแค่อยากแบ่งปันให้สังคมรู้ว่า ตัวเองไม่ได้อยากมาอวดเก่ง อวดเด่น อวดดัง แต่อยากบอกว่าผู้หญิงคนนี้ มาจากพื้นฐานครอบครัวที่บ้านแตก พ่อแม่แยกทาง พ่อไปทาง แม่ไปทาง คือต่างไปมีครอบครัวใหม่ ดิฉันจึงเป็นเด็กมีปมด้อยที่อยู่กับย่า ซึ่งเลี้ยงดูตามสภาพที่มี ดังนั้น ผู้หญิงคนนี้จึงต้องต่อสู้ให้โลกรู้ว่า สักวันฉันต้องมีพื้นที่ และต้องได้รับการยอมรับ สิ่งที่ทำได้ตอนนั้นก็คือ เรียนให้ดี เพราะเชื่อว่าสิ่งดีๆ จะตามมา จนในที่สุดก็เรียนจบแบบดีสุดๆ ทำงานให้ดีสุดๆ แต่งงานและทำธุรกิจจากไม่มี จนมีทุกอย่าง วันนี้มีทุกอย่างได้ก็เพราะขยันสุดๆ ทำแต่งาน หาแต่เงิน เปิดร้านแต่เช้า ปิดร้านดึก ขยันมากกว่า จึงรวยมากกว่า เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะมีลูก

ในที่สุดก็ตัดสินใจทำกิ๊พเด็กหลอดแก้ว แต่ก็ไม่ติด ไม่สำเร็จ ทุกอย่างพร้อม แต่ลูกไม่มี หลังจากนั้นไม่นาน ก็โชคร้ายเป็นมะเร็งปากมดลูกอีก ในที่สุดก็ต้องตัดมดลูกออก ทุกอย่างที่สร้างเพื่อลูก ฝันที่จะชดเชยวัยเด็กที่เป็นปมด้อย เพื่อเตรียมให้ลูกนั้นจบสิ้น และเมื่อมะเร็งมาเยือน นี่คือจุดเปลี่ยนชีวิต แต่ก่อนเราถือว่าโชคร้าย แต่มะเร็งทำให้คิดอะไรได้อีกเยอะ พอรักษาหายก็ทำให้คิดได้ว่า ชีวิตมีอะไรที่ต้องทำมากกว่าการทำแต่งาน หาแต่เงิน เพราะถ้ายังทำแบบนี้ ดินกลบหน้าก็จะไม่ได้ใช้เงิน ในที่สุดดิฉันก็เข้าสู่วงการการออกกำลังกาย การวิ่ง การปั่น และไตรกีฬา เป็นนักกีฬาแฟนซีส่งความสุข และเป็นนักธุรกิจแฟนซีสร้างมิตรภาพใส่ใจสร้างรอยยิ้มในการบริการที่ดีให้ลูกค้าประทับใจ️

กว่าจะถึงวันนี้ก็ผ่านอะไรมาเยอะทั้งฝนและมรสุม ขอเพียงใจที่อดทนสู้ต่อไป แล้วเราจะรู้ว่าฟ้าหลังฝนสวยงามขนาดไหน ฝันให้ไกลไปให้ถึง จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ และวันนี้เราลบปมด้อย ด้วยปมเด่น เพราะใจที่อดทน สู้ทนเพื่อวันของเรา”

พี่ตุ่นเล่าอีกว่า ที่ผ่านมาตัวเองยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและการท่องเที่ยวอีกด้วย นี่ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้รับการคัดเลือกเข้าไปช่วยงาน ททท.

“ดิฉันยึดคติที่ว่า ต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะมันคือโบนัสที่เรายังมีชีวิตอยู่ ดิฉันจะใช้เวลาในชีวิตโดยแบ่งเป็น 4 ส่วนคือ 1.เพื่อครอบครัวและคนที่เรารัก 2.เพื่อกิจการ เพราะเรายังต้องใช้จ่ายเงินในการดำรงชีวิต 3.เพื่อกิจกรรม ทุกเสาร์-อาทิตย์ จะหาสนามแข่งลงแข่งขันเพื่อสร้างสีสัน เช่น การแข่งวิ่ง แข่งปั่น และไตรกีฬา เพราะการแข่งขันทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง และ 4.ทำให้คนอื่นมีกำลังใจในการออกกำลังกาย ที่สำคัญในการเดินทางแต่ละครั้งยังได้พาสามีไปด้วย เราได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน และเราก็ได้ร่วมกิจกรรมนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารักด้วย จะได้ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างชีวิตคู่ไงคะ

สำหรับกิจกรรมยามอยู่บ้าน เมื่อมีเวลาว่าง ก็จะเข้าฟิตเนส เล่นเวทเทนนิ่ง และคาดิโอไปพร้อมๆ กัน เพื่อสร้างกำลังกายให้แข็งแรง เนื่องจากพออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญจะเปลี่ยนแปลงไป ทำให้อ้วนง่าย และถ้าอ้วนมากเกินไป ก็จะเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายมากมาย และทำให้ข้อเข่าเสื่อมเคลื่อนไหวไม่สะดวก ทุกวันนี้มีความสุขในการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจเลยค่ะ วันธรรมดา เมื่อค้าขายเสร็จ มีเวลาก็เข้าฟิตเนสเพื่อเวทเทรนนิ่ง เสาร์-อาทิตย์ ก็ร่วมกิจกรรมแข่งขัน เพื่อหาความสุขระหว่างครอบครัว และหาความสุขในการแข่งขันของตัวเอง ปัจจุบันดิฉันมีร่างกายที่แข็งแรง มีรูปร่างสมส่วนตามมาตรฐาน ทำให้มั่นใจในการใส่เสื้อผ้าและการเข้าสังคมอย่างมีความสุข ดิฉันจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในการหาเป้าหมายและทำฝันให้เป็นจริง นั่นเพราะเคยมีอดีตที่ขื่นขม และมีเป้าหมายที่ยังค้างคาใจไว้ ก็จะพยายามรีบเก็บเกี่ยวเป้าหมายทีละอย่างให้บรรลุผลเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดให้สมบูรณ์มากขึ้น

และเป้าหมายอีกอย่างที่เคยฝันมาตั้งแต่เด็กก็คือ อยากเป็นนางงาม อยากเป็นที่ยอมรับบนเวทีการประกวด ในที่สุดก็ได้รับข่าวดีจากกัลยาณมิตร ส่งข้อมูลการประกวดผู้หญิงที่แต่งงานแล้วมาให้ ที่สำคัญคือ ไม่กำหนดอายุผู้ร่วมเข้าประกวด คือเราได้รับข่าวสารข้อมูลตอนเดือนกันยายนซึ่งเป็นเวลาที่กระชั้นชิด ใกล้กับการแข่งขันประกวดนางงามเลย ดิฉันจึงรีบประสานงาน ลงทะเบียนเพื่อสมัครประกวดนางงามบนเวที Mrs.Noble Queen Thailand 2020 ซึ่งโชคดีเป็นอย่างมากที่เขายังรับสมัครและยอมให้คนอายุ 51 ปี เข้าประกวดได้

จากนั้นจึงมีการเก็บตัวที่กองประกวดนางงาม วันที่ 24-27 กันยายน 2563 ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเก็บตัว ที่โรงแรม Hua Hin Golf Hill Resort เมื่อสมัครแล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้น พะวง สับสน วันนี้คือเรื่องจริงหรือ ไม่ฝันไปใช่ไหม ทางกองประกวดก็ให้มีการเตรียมตัว เช่น เตรียมเสื้อผ้า เตรียมรองเท้า เตรียมชุด เพื่อจะใช้ในวันแข่งขัน ทำให้รู้สึกตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่กองประกวด มีการสอบถามว่า มีผู้ติดตามไหม และวัน Final ในการแข่งขัน วันที่ 27 กันยายน มีกองเชียร์หรือไม่ มีใครซื้อโต๊ะ VIP เข้าไปเชียร์ในห้องแข่งขันหรือไม่ โดยรอบ Final การประกวดรอบสุดท้าย จัดที่โรงแรมเชอราตัน หัวหิน ซึ่งเพื่อนๆ ผู้เข้าร่วมประกวดก็จะมีผู้ติดตามและกองเชียร์ แต่ตัวดิฉันเองไม่มีผู้ติดตาม ไม่มีกองเชียร์ ไม่มีการซื้อโต๊ะ VIP ในวันแข่งขัน Final วันสุดท้าย เพราะเป็นความประสงค์ที่พี่ต้องการพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง และจิตใจที่ต้องอดทนต่อแรงกดดันต่างๆ

และเมื่อถึงวันเก็บตัว คือวันที่ 24 กันยายน ก็มีการรายงานตัวที่โรงแรม หัวหินกอล์ฟฮิลล์ รีสอร์ท รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อได้เจอเพื่อนใหม่ที่หน้าตาสวยสดใสทุกคน แถมอายุอ่อนกว่าเยอะ เมื่อลองถามไถ่ น้องที่อายุน้อยที่สุดคือ 25 ปี่ อายุจะไล่กันมาเรื่อยๆ จนอายุมากที่สุดคือ 50 กว่าปี และหนึ่งในนั้นก็มีเราซึ่งอายุ 51 ปี จนคนในกองเรียกว่าแม่ ฟังดูไม่คุ้นหู แต่ก็ยอมรับ เพราะเขาเรียกกันด้วยความนับถือ ในขณะเก็บตัว 4 วัน มีกิจกรรมให้ทำทุกวัน เช่น พาผู้เข้าประกวดนางงามไปเก็บขยะที่ชายหาด ไปแต่งชุดว่ายน้ำที่สวนน้ำนาวาหัวหิน เป็นสิ่งที่เราไม่เคย เราไม่กล้า แต่เราต้องทำให้ได้ เพราะเราตัดสินใจมาแข่งขันแล้ว ตรงนี้เป็นการพิสูจน์จิตใจอย่างหนึ่ง ว่าถ้าเราอยากให้ฝันเป็นจริง เราต้องยอมรับ และทำให้ได้ ทุกกิจกรรมที่กองประกวดกำหนด นอกจากนั้น ยังมีการอบรม เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การไปร้านเสริมสวยทำเล็บ การไปร้านชุดว่ายน้ำที่เป็นสปอนเซอร์ให้แก่งาน เราต้องมีการเรียนรู้ ว่ากิจกรรมต่างๆ ที่ทำทั้ง 4 วัน คือส่วนใหญ่เราจะไปหาสปอนเซอร์และทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการโปรโมทให้สปอนเซอร์งาน ทั้ง โรงพยาบาล ร้านทำเล็บ ร้านขายชุดว่ายน้ำ ร้านอาหาร และโรงแรม เป็นต้น

การทำกิจกรรมเก็บตัวทั้ง 4 วัน เราต้องตื่นแต่เช้า แล้วต้องนอนดึก ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ต้องมีความกล้า ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ต้องใส่ชุดที่ไม่เคยใส่ ต้องใส่รองเท้าส้นสูง 5-6 นิ้ว เพื่อให้ดูสูงสง่าขึ้น ต้องฝึกเดิน ฝึกโพสต์ ฝึกพูด คือทำทุกอย่างที่นางงามควรปฏิบัติเพื่อให้ได้คะแนน ก่อนวัน Final มีการเข้าพบคณะกรรมการทีละคน ผู้อำนวยการกองประกวดจะเรียกว่า ‘ห้องเย็น’ จะมีการให้นางงามผู้เข้าประกวดเข้าไปในห้องทีละคน แล้วมีคณะกรรมการคอยนั่งฟังและซักถาม ทุกคนจะตื่นเต้น ว่าพวกกรรมการจะถามอะไร จะตอบได้ไหม ทุกคนมีแรงกดดัน

ก่อนเข้าห้อง ตัวดิฉันเองรู้สึกผ่อนคลาย ไม่กดดัน จะพยายามเดินคุยกับน้องๆ ที่รอคอยการสัมภาษณ์อยู่ด้านนอก และพยายามละลายพฤติกรรม ไม่ให้น้องๆ เครียด เมื่อถึงคิวของตัวเองที่ถูกเรียกเข้าไปในห้อง ในฐานะ Mrs.Noble Queen นครปฐม 2020 รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด สิ่งที่กรรม การถามคือ เหตุผลที่เข้าประกวด ดิฉันก็เล่าไปตามความรู้สึก จัดเรียลิตี้ เรื่องจริงของชีวิต ว่าตัวเองเคยผ่านอะไรมาบ้าง เจออะไรมาบ้าง จนมีดราม่าน้ำตาไหล จากสิ่งที่สัมผัสได้ คณะกรรมการพอใจและชื่นชมดิฉัน ให้กำลังใจดิฉัน น้ำตาไหลซึมและตบมือให้ดิฉัน เข้ามากอดดิฉันทีละคน แค่นี้ดิฉันก็รู้สึกว่ามีความสุขที่สุดแล้ว แล้วก็เดินออกจากห้องด้วยความสุขที่ได้ปลดปล่อยสิ่งที่คั่งค้างคาใจมานาน

จนถึงวัน Final ตกบ่าย กองประกวดนัดซ้อมเพื่อชี้จุดการเดิน ว่าเดินชุดอะไรบ้าง โดยมีการเดินชุดแรกคือชุดว่ายน้ำ จากสปอนเซอร์ ชุดที่ 2 ก็เป็นชุด wedding ที่ทางสปอนเซอร์จัดมาให้ แล้วชุดที่ 3 เป็นชุดราตรี ซึ่งผู้เข้าประกวดต้องจัดเตรียมมาเอง การประกวดทุกรอบ การโชว์ตัวทุกครั้ง มันคือสิ่งที่ตื่นเต้นท้าทาย เพราะคือครั้งแรก ประสบการณ์แรก ทุกอย่างเราไม่เคย ทุกชุดไม่เคยใส่ พยายามทำทุกชุดให้ดีที่สุด แบบไม่กดดัน และ Final สุดท้ายคือการพูด speech บนเวที คนละ 30 วินาที ถ้าใครพูดเกินจะถูกตัดคะแนน โดยหัวข้อที่ให้เราพูดก็คือ เราจะเพิ่มคุณค่าของสตรีอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ โจทย์ที่ดิฉันได้รับ เราต้องมีสติ และไตร่ตรอง พูดให้ดี พูดให้กระชับ ขึ้นให้สวย จบให้สวย ภายในระยะเวลา 30 วินาที และในที่สุด เมื่อพิธีกรประกาศขอเชิญ Mrs.Noble Queen นครปฐม พูด speech ดิฉันจึงพูดขึ้นว่า

ดิฉันรู้สึกดีใจที่ได้เข้ามาประกวดที่เวทีนี้ ถึงแม้ดิฉันจะอายุ 51 ปีแล้ว ดิฉันก็มั่นใจ ว่าการที่ดิฉันมาลงสมัครในเวทีนี้ ดิฉันต้องเป็นผู้ชนะแน่นอน อย่างแรกคือชนะใจตัวเอง ดิฉันไม่ต้องการเป็นที่ 1 ของเวทีนี้ แต่ดิฉันต้องการเป็นส่วนหนึ่งของเวทีนี้ เพราะดิฉันต้องการความรัก รอยยิ้ม และมิตรภาพ ดิฉันต้องการ ให้ทุกคนมีความสุข การทำทุกอย่างในชีวิต ดิฉันจะมีสติ และจะพูดกับตัวเองเสมอว่า I Love Myself. I love my life. I can do it …….Yes’

ดิฉันรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง การประกวดนางงามเป็นความตื่นเต้น เพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ หลังจากที่เราทำหน้าที่ในการใส่ชุดต่างๆ และการพูดบนเวทีได้จบลง นางงามทุกท่านต่างก็มารอลุ้นว่าผลคะแนนจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวดิฉัน ไม่รู้สึกกดดัน เพราะได้ทำหน้าที่ตามที่ตัวเองฝันเรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่สำคัญเราได้ชนะใจตัวเอง ก้าวผ่านความกลัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุที่มากกว่าผู้เข้าประกวดคนอื่น การไม่มีกองเชียร์มาเชียร์ เราได้ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดแล้ว จะคิดอยู่เสมอว่าท้อได้ แต่ถอยไม่ได้ อากาศมีทุกวัน โอกาสไม่มีทุกวัน เมื่อโอกาสเข้ามาถึงแล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร เรามั่นใจว่าเราทำดีที่สุดแล้ว

และในที่สุด ก็มีเสียงประกาศว่า นางงามมิตรภาพ ผู้ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ นางงามจากนครปฐม วรวิมล ปทุมมาลย์ลักขณา เมื่อได้ยินเสียงประกาศจากพิธีกร แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าฟังผิดไปหรือเปล่า จนมีเพื่อนๆ นางงามตะโกนบอกว่า แม่ แม่แฟนซีได้รางวัลนางงามมิตรภาพแล้ว เพื่อนๆ ก็วิ่งเข้ามาหามาจูงมือขึ้นไปส่งตรงข้างเวที วินาทีนั้นตื่นเต้นดีใจแบบบอกไม่ถูก นี่คือความสำเร็จที่เราทำดีที่สุดและอยากจะบอกให้ชาวโลกได้รู้ว่าอย่าเอาอายุมาเป็นตัวกำหนด ว่าเราทำอะไรต่อไปไม่ได้แล้ว ดิฉันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าเรามีลมหายใจ ถ้าเรามีความฝัน เราคือบุคคลที่มีศักยภาพสามารถทำเป้าหมายให้สำเร็จได้ดั่งฝัน ไม่ว่าเราจะต้องฟันฝ่าอุปสรรค ล้มแล้วลุก ลุกแล้วเดินไปข้างหน้า ด้วยความมั่นคงมั่นใจ จะเป็นพลังบวกที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้

นี่คือความทรงจำที่ดีบนเวทีประกวดนางงาม หลังจากเสร็จภารกิจ พวกเราเหล่านางงามที่ได้ตำแหน่งต้องเดินสายไปขอบคุณสปอนเซอร์ หลังจากนั้นก็มีสิ่งดีๆ เข้ามามากมาย โดยเฉพาะตัวดิฉัน ที่ได้รับรางวัล ‘ศักดิ์สิทธิ์ พระแม่ธรณี’ สาขาบุคคลต้นแบบ ที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติและแผ่นดิน ซึ่งเป็นรางวัลที่ ประทับใจ ซาบซึ้งใจ ไม่รู้ลืม, รางวัลครุฑปรเมศวร สาขานักบริหารและผู้นำองค์กรดีเด่น CEO ร้านคลังแบตเตอรี่ OK, รางวัลพระลักษมีดาราจักรเพชร จาก Dara Variety Award ครั้งที่ 2 (ปี 2020), รางวัลหงส์อวอร์ด Swan Awards สาขา การกีฬาดีเด่น, รางวัลสยามกินรีมหาชน สาขา ผู้เผยแพร่ศาสนาดีเด่น รวมทั้งได้รับเชิญเป็นแขกพิเศษในรายการ ‘พระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพโลก’ ออกอากาศทาง WBTV ทุกวันศุกร์ เวลา 17.00-18.00 น.

นอกจากนั้นยังได้รับเชิญ ให้เป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ บนเวทีการประกวด Mister BM Thailand 2020 เมื่อคืนวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งได้เป็นตัวแทนเดินฟินาเล่นางงาม ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติอันสูงส่งที่ให้นางงามได้สร้างแรงบันดาลใจ เพราะปกติจะเห็นมีแต่เวทีร้องเพลงและการแสดง แต่เวทีนางงามนี้ทำให้ดิฉันได้พูดสิ่งดีๆ เพื่อสร้างกำลังใจให้กับผู้ฟัง ดิฉันสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้สมกับตำแหน่งนางงามมิตรภาพ จากเวที Mrs.Noble Queen Thailand 2020 ค่ะ”

**ร้านคลังแบตเตอรี่ OK เลขที่ 160/36 ม.1 ต.ยายชา อ.สามพราน จ.นครปฐม 73110 โทร.098251-4570 LINE@ : 0982514570  และ FACEBOOK : เจ้าแม่คลังแบต  

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมป๊อบอัพช็อป ‘THAINESS STATION สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน’ ที่สยามพา...

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาเยี่...