ไพรัช สิริวรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ และ ไพโรจน์ สิริวรวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แห่ง บริษัท รุ่งแสงไทย อินเตอร์แมทเทรส จำกัด คือผู้บริหารในเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เข้ามาดูแลธุรกิจเครื่องนอนซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ล่าสุดได้มีการเปิดตัวแบรนด์เครื่องนอนระดับไฮเอนด์น้องใหม่ที่ชื่อว่า Lincon (ลินคอน) ออกสู่ตลาดในประทศไทย ลองไปฟังวิสัยทัศน์ด้านการทำธุรกิจเครื่องนอนจากผู้บริหารกันเลย
ไพรัชเริ่มต้นพูดถึงธุรกิจให้ฟังว่า…“ครอบครัวเราเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับที่นอนมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 โดยคุณพ่อของผมเป็นผู้บุกเบิก ที่จริงช่วงแรกเราเปิดเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ก่อน ต่อมาคุณพ่อก็ให้คุณแม่ดูแลร้าน จากนั้นพ่อก็ไปหุ้นกับเพื่อนเปิดโรงงานทำที่นอนใยมะพร้าวขึ้น แต่พอหุ้นกันได้สักพักเพื่อนก็มาถอนหุ้นไป พ่อก็เลยลุยธุรกิจคนเดียว เริ่มจากไม่มีอะไรเลย ท่านก็เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว ต่อมาท่านก็ได้คิดค้นที่นอน 2 ระบบขึ้นมา คือตอนนั้นถึงกับได้รับรางวัลจากมือของท่านพิชัย รัตกุล เลยละ เราถือเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นที่นอนซึ่งสามารถนอนได้ 2 ด้านเลยก็ว่าได้ คือในยุคนั้นที่นอนสปริงยังไม่มีครับ จึงเป็นที่นอนที่ยัดนุ่นซะส่วนใหญ่
ต่อมาพี่ชายผม (ไพโรจน์) ซึ่งตอนนั้นกำลังเรียนมหาวิทยาลัย (ภาคค่ำ) ก็เข้ามาช่วยคุณพ่อดูแลธุรกิจ กระทั่งเกิดแบรนด์ที่นอน Homematt (โฮมแมท) ขึ้นมา จึงถือเป็นแบรนด์แรกของเราซึ่งจัดอยู่ในสินค้ากลุ่มแมสที่วางขายตามร้านเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป คือต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นเรายังไม่ได้รับผลิตที่นอนให้กับแบรนด์อื่นๆ มาก่อน แต่พอมีแบรนด์โฮมแมทแล้ว เราก็เริ่มรับผลิตที่นอนให้กับโรงแรมหรือส่วนราชการต่างๆ
นอกจากนี้เรายังค้าวัสดุอย่าง ผ้าทำที่นอน ผ้าบุที่นอน และอื่นๆ โดยเราจะมีโรงงานผลิตวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการทำที่นอนหลายโรงงาน คือทั้งผลิตขายเองและผลิตส่งให้กับโรงงานทั่วไปที่เขานำไปติดแบรนด์ของตัวเองด้วย โชคดีว่าคุณพ่อมีพันธมิตรเยอะมาก เราจึงสามารถขายวัตถุดิบให้กับโรงงานต่างๆ มาได้เรื่อยๆ โดยไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจ”
ไพรัชบอกอีกว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมานี้ ตลาดจีนเริ่มเข้ามามีบทบาททางด้านเศรษฐกิจในระดับโลก ครอบครัวเขาจึงเริ่มบินไปนำเข้าผ้าจากประเทศจีนซึ่งใช้สำหรับทำที่นอนเพื่อนำมาขายให้กับโรงงานผู้ผลิตในประเทศไทย
“ต้องบอกว่าราคาวัสดุประเภทผ้าจากจีนนั้นถูกกว่าบ้านเรามาก เราจึงไปติดต่อนำเข้าสินค้าจากจีนซะเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากคุณพ่อพูดจีนได้ ท่านก็บินไปติดต่อธุรกิจโดยมีผมพ่วงไปด้วยตลอด หลังๆ ท่านก็จะให้ผมไปเองละ ท่านก็เลยส่งผมไปเรียนที่ประเทศจีน 1 ปี จนผมก็เริ่มพูดภาษาจีนได้ ผมจึงมีโอกาสติดต่อกับโรงงานในจีนมากขึ้น ได้เห็นวัตถุดิบมากขึ้น ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะมาก เพราะโรงงานในจีนส่วนใหญ่เขาส่งไปตลาดยุโรปและอเมริกาทั้งนั้น
วันหนึ่งผมก็ไปสะดุดกับชื่อที่นอนแบรนด์หนึ่งเข้า แบรนด์นี้ชื่อว่า Lindon ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผมชอบมาก ผมก็เลยคิดจะต่อยอดแบรนด์ที่นอนของตัวเองขึ้นมาบ้าง ซึ่งชื่อที่คิดว่าคนจำได้ง่ายก็คือ Lincon ซึ่งฟังดูก็คล้ายๆ กับแบรนด์ที่ผมชอบนั่นแหละ (หัวเราะ) ความตั้งใจของผมก็คือ อยากทำที่นอนพรีเมียมสำหรับตลาดของคนกลุ่มนี้ออกมา แล้วต้องเป็นที่นอนที่ฉีกแนวจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยนะ ผมจึงเริ่มจากคิดฉลากหรือโลโก้ไว้ก่อน แม้จะไม่ได้เรียนออกแบบมา แต่ผมก็ใช้ประสบการณ์ที่มี โดยช่วยกันคิดและออกแบบที่นอนแบรนด์ Lincon กับพี่ชาย ซึ่งที่นอนนี้มีจุดเด่นคือ เป็นที่นอนไฮเอนด์เพื่อสุขภาพนั่นเอง”
ไพรัชบอกว่า เหตุผลที่แบรนด์ Lincon มีจุดเด่นคือ การเป็นเครื่องนอนที่สามารถรองรับสรีระของลูกค้าแต่ละคนได้ก็เพราะว่า ทุกวันนี้กลุ่มคนมีเงินซึ่งถือเป็น 10% จากลูกค้าในตลาดเครื่องนอนทั้งหมดนั้น เริ่มหันมาดูแลใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น พูดง่ายๆ ว่าเทรนด์นี้กำลังมา แต่ส่วนแบ่งตลาดไฮเอนด์ 10% นี้ การแข่งขันจะค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากมีแบรนด์ใหญ่ๆ แบรนด์ดังๆ ยึดหัวหาดอยู่แล้ว ทั้งแบรนด์ไทยเองและแบรนด์นำเข้า ที่วางกลยุทธทางการตลาดมาอย่างดี ดังนั้น การที่จะสู้กับแบรนด์เหล่านี้ได้ สินค้าของ Lincon จะต้องมีอะไรที่พิเศษกว่า จึงจะสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้ แบรนด์ลินคอนจึงวางตัวเองให้เป็นสินค้าพรีมียมที่ลูกค้าสามารถ Custom Made หรือสั่งที่นอนในแบบที่ตัวเองต้องการได้ ในขณะที่เครื่องนอนพรีเมียมแบรนด์ดังๆ หลายแบรนด์ที่ราคาแพงก็ยัง Custom Made ไม่ได้เลย นี่คือจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น
“ด้วยความที่เราชูจุดเด่นว่า Lincon เป็นเครื่องนอนที่สามารถรองรับสรีระของลูกค้าได้เป็นอย่างดี แบรนด์จึงต้องร่วมมือกับนักกายภาพบำบัดในการให้คำปรึกษาแนะนำกับลูกค้าที่เดินเข้ามาในช็อป คือเราจะไม่มีเซลคอยตอบคำถามเหมือนแบรนด์ทั่วไป แต่จะมีนักกายภาพฯ คอยต้อนรับและคอยถามปัญหาที่ลูกค้าประสบอยู่ เช่น การปวดคอ ปวดหลัง ปวดเอวนั้น มีสาเหตุเกิดจากที่นอนหรือเกิดจากหมอนกันแน่ จากนั้นนักกายภาพฯ ก็จะให้ลูกค้ากรอกแบบสอมถามและซักประวัติเหมือนไปโรงพยาบาลเลยครับ เมื่อได้ข้อมูลครบแล้ว นักกายภาพฯ ก็จะวัดและจัดสรีระในเรื่องที่นอนและหมอน ว่าควรจะมีความนุ่ม ความแน่น ของที่นอนขนาดไหนถึงจะพอดีกับลูกค้าแต่ละราย หรือหมอนที่หนุนควรใช้หมอนที่มีความสูงต่ำขนาดไหน เป็นต้น
ต้องบอกว่าที่นอนและหมอนของแบรนด์เราจะหล่อจากวัสดุที่ชื่อว่า เมมโมรี่ โฟม ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง สามารถช่วยรองรับสรีระของแต่ละคนได้ดี เราจึงต้องมีนักกายภาพฯ ไว้เพื่อคอยดูแลแก้ไขปัญหาของลูกค้าโดยการปรับสรีระให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลด้วยเลย เพราะร่างกายคนเรามันมีส่วนโค้งเว้าที่ไม่ได้แบนราบ ซึ่งการใช้ที่นอนที่ทำจาก เมมโมรี่ โฟม นั้นจะสามารถปรับให้ซัพพอร์ต ไล่มาตั้งแต่ บ่า หลัง และก้น ส่วนศีรษะก็ช่วยซัพพอร์ตได้จากการปรับหมอนที่นักกายภาพฯ ช่วยดูแลแนะนำให้อย่างดี
ที่จริงแล้วเรื่องที่นอนนั้น มันจะสะท้อนไปถึงเรื่องบุคลิกภาพของเจ้าของที่นอนด้วยนะครับ ถ้าเรานอนแบบคอตก ไหล่เอียง เราก็จะเดินหลังงุ้ม ไหล่ห่อ คอตก ทำให้เสียบุคลิกและเสียสุขภาพได้ในอนาคต ฉะนั้นผมแนะนำให้ลูกค้าทุกท่านลองมาทดสอบได้ที่ช็อปของเราเลย แล้วคุณจะได้ที่นอนและหมอนที่เหมาะสมกับสรีระของตัวคุณอย่างแท้จริง”
ไพรัชเสริมว่า การ Custom Made ที่นอนและหมอนนั้น เมื่อได้ขนาดที่เหมาะสม และผ่านการวิเคราะห์จากนักกายภาพฯ แล้ว ลูกค้าจะต้องรอสินค้าประมาณ 2 สัปดาห์กว่าๆ ที่นอนและหมอนก็จะส่งตรงถึงบ้านคุณแน่นอน
“ที่นอนของ Lincon มีทั้งหมด 7 รุ่นด้วยกัน เช่น รุ่น Unicorn สามารถสั่งคัสตอมได้ 7 โซน, รุ่น Precious สามารถ คัสตอมได้ 3 โซน, ส่วนรุ่น Everest กับ Centric จะเป็นรุ่นที่มีแผ่น Anatomy Support Zone Pad ซึ่งใช้วัสดุที่มีความนุ่มแน่น สามารถรองรับสรีระของลูกค้าแต่ละคนได้ดี แม้สามีภรรยาที่นอนเตียงเดียวกัน ก็สามารถเลือกความนุ่มและแน่นในแต่ละด้านของที่นอนให้แตกต่างกันได้ด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีรุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 20,000-120,000 บาท ดูรายละเอียดที่ www.linconmattress.com สอบถามที่ Line : @Lincon Sleep Studio หรือโทร.06-3472-6888
นอกจากช็อปของ Lincon Sleep Studio ซึ่งอยู่ในโครงการ CDC โซน K2-109 แล้ว ลูกค้ายังสามารถชมและทดลองที่นอน ซึ่งเราจะนำไปโชว์ไว้ที่ Rebalance Better Health For Better Life (สอบถามโทร.0-2047-9459 และ www.rebalancebangkok.com) ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจของเราในบางสาขา ที่สามารถจัดแสดงที่นอนไว้ได้ด้วย แล้วจะมีนักกายภาพฯ คอยให้คำแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับที่นอนที่เหมาะสมกับสรีระของลูกค้าแต่ละคน Stand By อยู่ด้วยครับ นี่คือการร่วมมือทางด้านธุรกิจของเรา
ปัจจุบันนี้เรามุ่งเน้นการสร้างแบรนด์และทำการตลาดที่เมืองไทยก่อน แต่ที่ผ่านมาก็มีตัวแทนจากประเทศกัมพูชาติดต่อมาเพื่อนำที่นอน Lincon ไปจำหน่ายที่นั่นด้วย เพราะกลุ่มคนมีเงินในประเทศเขาก็เยอะ แต่บังเอิญเจอสถานการณ์โรคโควิด 19 ระบาดซะก่อน ก็เลยยังไม่ได้ไปเปิดตลาดที่นั่นครับ แต่คาดว่าก็น่าจะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้ สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถเข้ามาพูดคุยสอบถาม (โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย) กับนักกายภาพฯ ที่ Lincon Sleep Studio โครงการ CDC เลียบด่วนรามอินทราได้เลยครับ”