Tuesday 16 April 2024 | 11 : 02 pm

Van Cleef & Arpels นำกำไลข้อมือ Ludo หนึ่งในผลงานเครื่องประดับสัญลักษณ์ประจำเมซงจากทศวรรษ 1930 กลับมาจุดประกายความโดดเด่น สะกดทุกสายตาผู้พบเห็นอีกครั้ง

นับแต่ก่อตั้ง ดำเนินกิจการ ณ จัตุรัสว็องโดมเมื่อปี 1906 Van Cleef & Arpels อาศัยแรงบันดาลใจจากอาณาจักรแห่งแฟชั่นเสมือนเป็นการยกย่องกรุงปารีส แผ่นดินเกิดของตนในฐานะศูนย์กลางแฟชั่นโลก กว่าหลายปีที่ผ่านมา เมซงจำลองสัมผัสลื่นไหล และพลิ้วไหวของผืนแพรพรรณผ่านงานรังสรรค์ทองคำร่วมกับบรรดาวัสดุเลอค่านานาชนิด ปรากฏให้ประจักษ์เป็นผลงานเครื่องประดับอันงามสง่าเหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย

สำหรับวันนี้ แหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจจากวงการแฟชั่นได้ก้าวขึ้นสู่เวทีแห่งการแสดงไหวพริบ และทักษะศิลป์หลากแขนงผ่านลีลาของผลงานเครื่องประดับชุดใหม่ ซึ่งเป็นบทบรรจบระหว่างเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงกับ ประดิษฐกรรมนาฬิกาข้อมือ ด้วยการรังสรรค์ผลงานต้นแบบกำไลข้อมือ “ลูโด” (Ludo) จากทศวรรษ 1930 นาฬิกาข้อมือทั้งสี่รุ่นทำหน้าที่บอกเวลาในรูปลักษณ์ของเครื่องประดับซ่อนเวลา Ludo Secret

Van Cleef & Arpels นำกำไลข้อมือ “ลูโด” (Ludo) หนึ่งในผลงานเครื่องประดับสัญลักษณ์ประจำเมซงจากทศวรรษ 1930 กลับมาจุดประกายความโดดเด่น สะกดทุกสายตาผู้พบเห็นกันอีกครั้งในรูปแบบของเครื่องประดับซ่อนเวลา Ludo Secret watch สองสไตล์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวจากผลงานต้นแบบยังคงปรากฏอย่างชัดเจน ด้วยตัวเรือนจำลองแบบรูปทรงเข็มขัดคาดเอวโดยอาศัยโครงตาข่ายมอบความยืดหยุ่นให้ตัวเรือนที่รองรับโมทีฟ ฝังอัญมณี ซึ่งถูกนำมาใช้แทนที่หัวคาด หรือตัวกลัดวงกำไล

เครื่องประดับอันประกอบขึ้นจากแผ่นโลหะเลอค่าทรงหกเหลี่ยมร้อยต่อกันเป็นตัวเรือน วงกำไลนี้คือบทระดมความต่างทางวัสดุ และความหลากหลายในแง่เฉดสีของทองคำ และเพื่อทวีความเลอค่า ในใจกลางของชิ้นส่วนโลหะแต่ละแผ่นยังประดับรัตนชาติเลอค่าเม็ดเดี่ยวอย่างทับทิม หรือไพลินโดยการฝังสอดลงในร่องสลักลายรัศมีดาวหกแฉก ก่อผลลัพธ์ราวกับมีหมู่ดาวระยับแสงโอบกระหวัดรอบข้อมือ บนครรลองของกระบวนการสรรค์สร้างศิลปะซ่อนเวลา Secret Watch ที่ Van Cleef & Arpels ยึดมั่นเป็นขนบธรรมเนียมอันรักยิ่ง เครื่องประดับซ่อนเวลาหน้าปัดแม่มุกมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล ขาวกระจ่างล้อมเพชรสองรุ่น เร้นตัวอยู่ภายใต้ฝาครอบรองรับหินรัตนชาติเนื้อแข็งเลอค่าเม็ดเดี่ยว ซึ่งผ่านการเจียระไนทรงหลังเบี้ยล้อมเพชร อาศัยกลไกเดือยหมุนอำนวยต่อการเลื่อนเปิดให้ปรากฏลีลาไล่เฉดทอประกายเหลื่อมระยับ บนพื้นผิวแม่มุกฝังดาวเดี่ยวสำหรับเป็นตำแหน่งหลักบอกเวลาสิบสองชั่วโมง ในขณะที่อีกสองรุ่น เพียงยกฝาครอบโมทิฟฝังไพลิน หรือทับทิมขึ้นตัวเรือนแบบซ่อนหนามเตย Mystery Set ขึ้นมา ก็แสดงเวลาให้เห็นได้ตามต้องการ

กุหลาบสลับสี

จากการรังสรรค์กำไลข้อมือ “ลูโด” รุ่นต้นแบบมาสู่งานออกแบบเครื่องประดับซ่อนเวลา Ludo Secret watch ถึง สองรุ่น แต่ละแบบล้วนอาศัยการคัดสรรวัสดุเลอค่านานาชนิดมาร้อยเรียงให้ทอประกายสุกสว่างเรืองรองส่องสกาวสะกดสายตา ไม่ว่าจะเป็นสองรุ่น ที่ตัวเรือนทำจากทองคำสีเหลืองรองรับการผสานเฉดสีสดใส และเยือกเย็นของโมราเขียวคริโซเพรส, มรกต และไพลิน กับตัวเรือนทองคำสีเหลืองซึ่งมาพร้อมลูกเล่นตัดสีระหว่างพลอยน้ำสมุทรลาพิซ ลาซูลิกับไพลินสีน้ำเงิน และสีชมพู ท่ามกลางบทบรรจบทางความหลากหลายของวัตถุดิบ และสีสัน มวลหินรัตนชาติเนื้อแข็งทวีความเลอค่าอยู่บนโมทิฟตัวเรือนทองคำสีเหลืองทรงสมมาตร กลีบดอกอัญมณีต่างขนาด ได้รับการบรรจงจัดสลับเฉดให้ผลิบานอย่างงดงามอยู่รายรอบหินรัตนชาติเนื้อแข็งเม็ดเดี่ยว เจียระไนทรงหลังเบี้ยล้อมเพชรเยี่ยงวงรัศมี นอกจากนั้น ปลายสายวงกำไลยังจำลองงานเดินขอบขลิบริมปลายเข็มขัดเสมือนจริงด้วยการตกแต่งโมทิฟฝังอัญมณีที่เป็นบทขานรับงานออกแบบดอกกุหลาบซ่อนเวลา เป็นการเติมความสมบูรณ์แบบทางความหรูหราอย่างครบครัน

เพื่อสืบทอดธรรมเนียมเครื่องประดับพลิกแพลงกลไกอันทรงเอกลักษณ์ของเมซง ผลงานสร้างสรรค์เหล่านี้จึงสามารถดัดแปลงวิธีการสวมใส่ได้อย่างหลากหลาย อย่างโมทิฟตัวเรือนนาฬิกา สามารถปลดออกไปใช้เป็นเข็มกลัด หรือจี้สร้อยคอร้อยสายโซ่เส้นยาว ในขณะที่ส่วนของสายคาดทองจะกลายเป็นเครื่องประดับชิ้นใหม่ นั่นคือกำไลข้อมือทรงปลอกอันโดดเด่นด้วยรายละเอียดของงานประกอบชิ้นส่วนทรงหกเหลี่ยมบนโครงตาข่ายรองรับหัวคาดปลายสายประดับหินรัตนชาติเลอค่า

Van Cleef & Arpels ยังสรรค์สร้างเครื่องประดับซ่อนเวลา Ludo Secret อันทรงเอกลักษณ์อีกสองรุ่น คือตัวเรือนทองคำขาวประดับไพลิน กับรุ่นตัวเรือนทองคำสีกุหลาบประดับทับทิม ด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องประดับซ่อนเวลา Ludo Hexagone Macarons (ลูโด เอ็กซากอน มาการงส์) เมื่อปี 1941 ผลงานทั้งคู่ทวีความอ่อนช้อย ให้ความรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวาด้วยห่วงวงแหวนเพชรซ้อนสาม ประดับขอบบน และล่างของกรอบหน้าปัด ซึ่งติดตั้งฝาครอบรองรับงานฝังทับทิม หรือไพลินขึ้นตัวเรือนทรงโค้งต่ำด้วยเทคนิคซ่อนหนามเตย (Mystery Set) ทอประกายสีสันสดชัด ล้ำลึก และกลมกลืนกับวงกำไลโค้งมนอย่างลงตัว

จากแผนกหินรัตนชาติสู่ห้องผลิตงาน

การใช้โลหะทองถ่ายทอดลีลาลื่นไหลไหวพลิ้วของผืนแพรพรรณ ภายใต้ฝีมือของช่างหัตถศิลป์ประจำห้องผลิตงานของเมซง ถือเป็นโจทย์ท้าทายความสามารถเชิงเทคนิคอย่างแท้จริง ในการสรรค์สร้างผลลัพธ์จำลองลายทอละเอียดอ่อนในของเนื้อผ้า แผ่นโมทิฟทรงหกเหลี่ยมของนาฬิกาข้อมือต้องอาศัยความประณีตทางการประกอบชิ้นส่วน และปรับตำแหน่งทีละจุดด้วยมือเพื่อให้การเรียงตัวขององค์ประกอบทั้งหมดมอบความอ่อนช้อย หมดจด และแนบเนียนอย่างที่สุด

นักอัญมณศาสตร์ผู้ชำนาญของเมซง ต้องทำการเลือกสรรวัสดุเลอค่าทั้งหมดโดยอิงเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอย่างเคร่งครัดที่สุด ทั้งพลอยน้ำสมุทร และโมราเขียว ได้รับการพิจารณา ประเมินคุณค่าในแง่ความสดชัด สม่ำเสมอของเนื้อสี ในขณะที่แผ่นแม่มุกสำหรับทำหน้าปัดต้องให้ระดับสีที่กลมกลืน พื้นผิวเรียบเนียน ต้องแสงเป็นประกายเงางามระดับสูง ส่วนการจับคู่เทียบเคียงพลอยเนื้อแข็ง กับหินรัตนชาติเพื่อนำมาเจียระไนในรูปทรงอันหลากหลายอย่างทรงหลังเบี้ย, ทรงหยดน้ำ, ทรงกระสวย หรือทรงข้าวหลามตัดขอบโค้ง และทรงกลม ก็ล้วนเป็นงานที่ละเอียดอ่อน ซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง

ประกายล้อแสงระยับตาจากตัวเรือน  Mystery Set

บรรดานาฬิกาข้อมืออันทรงเอกลักษณ์ ต้องแสงทอประกายระยิบระยับ สุกสว่างเรืองรองด้วยการใช้หนึ่งในเทคนิคสัญลักษณ์ประจำเมซง นั่นก็คืองานฝังตัวเรือนแบบซ่อนหนามเตยหรือ Mystery Set สุดยอดงานฝีมือในการทำเครื่องประดับที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันในการนำหินรัตนชาติซึ่งผ่านการเจียระไนอย่างละเอียดอ่อนในรูปทรงเฉพาะ สอดลงบนรางทองคำของตัวเรือน เมื่อได้รับการฝังเข้าตำแหน่ง ไพลิน และทับทิม ซึ่งเป็นอัญมณีที่นิยมใช้กับเทคนิคนี้ ก็จะเรียงชิดจนบดบังโลหะตัวเรือนได้อย่างหมดจด แนบเนียน ก่อผลลัพธ์ทอประกายเหลื่อมเงาล้อแสงละมุนละไมดุจผืนแพรกำมะหยี่ ทักษะ ความชำนาญระดับสูงในการสรรค์สร้างเครื่องประดับซ่อนหนามเตยนี้ ยังคงเป็นมรดกเอกสิทธิ์ที่ได้รับการสงวน และถ่ายทอดกันในหมู่ช่างเจียระไน กับช่างทำตัวเรือนยอดฝีมือหายากเพียงไม่กี่คน ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ได้รับการยกย่องในสมญา “ช่างมือทอง” หรือ Mains d’Or (แม็งส์ ดอร)

ลีลาลักษณ์ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกประจำเมซง

เครื่องประดับซ่อนเวลา Ludo Secret watch ยังเป็นผลงานยกย่องความงามสง่าเหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย หนึ่งในเอกลักษณ์ ความโดดเด่นที่ทำให้ Van Cleef & Arpels แตกต่างจากเหล่าผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงรายอื่น กำไลข้อมือลูโดรุ่นต้นแบบถูกสรรค์สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1934 โดยได้รับการขนานนามตามชื่อเล่นของลูอิส อารเปลส์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งเมซงนั้น โดดเด่นด้วยตัวเรือนวงกำไลจำลองแบบมาจากเข็มขัด เครื่องประดับแฟชันประจำตัวหญิงสาวหัวขบถ ผู้ท้าทายแนวคิดอนุรักษ์นิยมของทศวรรษ 1930 สิ่งนี้เองทำให้กำไลข้อมือลูโดประสบความสำเร็จในทันที

บัตรประจำผลงานกำไล Ludo bracelet ปี 1946 จากแผนก Van Cleef & Arpels Archives
กำไลข้อมือนาฬิกา Ludo ติดตั้งกลไกบานพับคู่เปิด/ปิดเมื่อปี 1949 ตัวเรือนทองคำสีเหลือง ประดับงานฝังไพลินขึ้นตัวเรือน Mystery Set และเพชร

ผลงานรุ่นต้นแบบเมื่อปี 1934 อาศัยงานประกอบชิ้นส่วนแผ่นโมทิฟทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าร้อยต่อกันเหมือนก่ออิฐขึ้นกำแพง จากนั้น ในปีต่อมา ก็คือผลงานรุ่นประกอบชิ้นส่วนแผ่นโมทิฟทรงหกเหลี่ยมเรียงร้อยราวรวงผึ้ง แต่ไม่ว่าจะอาศัยโมทิฟรูปทรงใดในการก่อตัวเรือนวงกำไล ก็ล้วนรองรับงานประดับโมทิฟซ่อนหนามเตย หรือช่อดอกไม้ และแม้กระทั่งทรงขดโค้งวงก้นหอย หรือบิดเกลียวอ่อนช้อยได้อย่างงามสง่า กำไลต่างทรงโมทิฟทั้งสองลีลาลักษณ์นี้ ล้วนกลายเป็นต้นแบบการรังสรรค์ผลงานต่อยอดรุ่นอื่นๆ มาตลอดทศวรรษ 1930 ไม่ว่าจะเป็นแหวน, นาฬิกาข้อมือ และเข็มกลัดสำหรับแต่งปกเสื้อ หรือสาบเสื้อได้ตามต้องการ