Saturday 27 April 2024 | 1 : 00 am

เครื่องจักรกลอัจฉริยะ ทางเลือกใหม่จากไต้หวัน ลดแรงงานมนุษย์ เพิ่มความปลอดภัยในสายการผลิต

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์ ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกก่อให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในสายงานการผลิตที่จำเป็นต้องใช้การควบคุมจากมนุษย์ เครื่องจักรกลเป็นพื้นฐานความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายประเทศต่างตระหนักถึงความจำเป็นในการยกระดับอุตสาหกรรมไปอีกขั้น

Mr. Walter Yeh ( President & CEO) from TAITRA

เครื่องจักรกลอัจฉริยะของไต้หวันที่ปราศจากการควบคุมดูแลโดยมนุษย์จึงมีบทบาทสำคัญในสถานการณ์นี้ ชื่อเสียงของอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลอัจฉริยะไต้หวันเป็นที่ยอมรับจากอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก ในด้านเครื่องจักรกลที่มีความโดดเด่นทั้งคุณภาพ และการบริการในราคาเหนือกว่าคู่แข่ง อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง และมีการผสมผสานของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างกว้างขวาง

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 Taiwan Excellence จึงจัดงานแถลงข่าวออนไลน์ หัวข้อ ‘Taiwan Excellence Smart Machinery’ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ซื้อทั่วโลกได้รู้จักสินค้าต่างๆ ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลอัจฉริยะชั้นนำของไต้หวันในโครงการ Taiwan Excellence ซึ่งเป็นโครงการระดับนานาชาติเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยม โดยในงานแถลงข่าวมีบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลอัจฉริยะชั้นนำที่มีชื่อเสียงที่สุดของไต้หวันทั้งหมด 8 แห่ง ที่มีการผลิตด้วยระบบอัจฉริยะขั้นสูง ได้แก่ Chin Fong, FFG (Feeler), Grintimate, HIWIN, Manford, Solomon, She Hong (Hartford) และ TongTai มาจัดแสดงผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ รวมไปถึงชิ้นอะไหล่ใหม่ที่มีการทำงานอย่างแม่นยำ เครื่องจักรที่ควบคุมด้วยระบบดิจิตอล เครื่องจักรอัตโนมัติ และระบบควบคุมอัจฉริยะ สินค้าเครื่องจักรกลเหล่านี้จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล และเป็นทางออกให้กับผู้ผลิตทั่วโลก

Mr. Guann-Jyh Lee(Deputy Director General) from Bureau of Foreign Trade, MOEA

บริษัทต่างๆ ได้นำเสนอไอเดียใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chin Fong หนึ่งในสี่ผู้ผลิตสื่ออัดเสียงชั้นนำของโลก เสนอแนวคิดใหม่กับเครื่องปั๊มชิ้นงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ดีขึ้น Grintimate เผยถึงการใช้เทคนิคอุทกสถิตเพื่อทำการผลิตเพลาขับรถยนต์ง่ายขึ้น FFG ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตเครื่องมือเครื่องจักรสามอันดับแรกของโลก และเป็นผู้ผลิตเครื่องมือเครื่องจักรรายใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ได้เปิดตัวทางเลือกสำหรับการผลิตอัตโนมัติในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของสายการผลิต และทาง HIWIN ผู้มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 2 ในสาขาของกลุ่มผลิตภัณฑ์สายนำสัญญาณ ให้คำแนะนำเรื่องชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับอุปกรณ์เครื่องจักรอัตโนมัติให้มีความแม่นยำและความทนทานสูง 

บริษัท Manford ได้นำเสนอโซลูชั่นด้วยเครื่องจักรกลประหยัดพลังงานตัวใหม่ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และลดการใช้น้ำมันหล่อลื่นลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ยังคงรักษาสมรรถภาพในการทำงานได้ดังเดิม ทาง Solomon แสดงให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีการมองเห็นแบบ 3 มิติ สามารถช่วยอุปกรณ์เครื่องจักรอัตโนมัติในการทำงานที่ซับซ้อน และงานประเภทหยิบยกชิ้นงาน (Pick-and-Place) ได้อย่างแม่นยำ She-Hong ผู้ผลิตศูนย์เครื่องจักรกลที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ได้แนะนำตัวควบคุมอัจฉริยะ “Hartrol Premium” ซึ่งมีหน้าสัมผัสที่เป็นมิตร และใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจและจัดการการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และ Tongtai นำเสนอโซลูชั่นที่แตกต่างสำหรับการผลิตอัจฉริยะ และแบ่งปันตัวอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาช่วยลูกค้าสามารถสร้างสายงานการผลิตที่ยืดหยุ่น

Mr. Andy Hung(Sales Director) from Fair Friend Group (FEELER)

นอกจากนี้ ไต้หวัน ยังเปิดตัว โครงการ ‘Taiwan Excellence Smart Machinery Virtual Pavilion’ เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลอัจฉริยะ Smart Machinery ร่วมทั้งหมด 60 รายการจาก 50 แบรนด์ที่ได้รับเลือกจากทาง Taiwan Excellence ซึ่งผู้ซื้อจะสามารถทดสอบผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลอัจฉริยะได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยใช้เทคนิค VR ที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเสมือนจริงแบบไร้ข้อจำกัด

Mr. Simon Liao (Manager) from HIWIN TECHNOLOGIES CORP.

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์โดยบริษัทที่ทำการศึกษาทางการตลาด ‘Markets and Markets’ เผยว่า ตลาดของการผลิตเครื่องจักรกลอัจฉริยะในปี 2563 จะเพิ่มขึ้นจาก 214.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 384.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 โดยมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR – Compound Annual Growth Rate) ที่ 12.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกลุ่มบริษัทใน Taiwanese Smart Machinery จะเป็นส่วนหนึ่งทำให้ยอดการเติบโตนี้เกิดขึ้นได้ในระยะยาว โดยการเพิ่มขีดความสามารถและแก้ปัญหาให้กับสายงานการผลิตทั่วโลก ซึ่งประเทศต่างๆ ต้องหันมาใช้เครื่องจักรกลอัจฉริยะในระบบการผลิตมากขึ้น เพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างราบรื่นแม้ในภาวะวิกฤต ซึ่งทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงศักยภาพในอุตสาหกรรมผลิตของไต้หวัน จากภารกิจผลิตหน้ากากอนามัยรวม 92 สายการผลิตเสร็จสิ้นภายใน 40 วัน และยังเพิ่มการผลิตหน้ากากจาก 1.88 ล้านชิ้นเป็น 17 ล้านชิ้นต่อวัน ทำให้ไต้หวันกลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

นายวอลเตอร์ เย ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA กล่าวว่า การระบาดของไวรัส COVID-19 ในครั้งนี้ ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องจักรและการพัฒนาเครื่องจักรต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาใหม่ๆ เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าบริษัทชั้นนำในไต้หวัน สามารถจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมาสนับสนุนการผลิตเครื่องจักรในช่วงวิกฤตินี้ได้ โดยบริษัทเหล่านี้พร้อมที่จะเป็นผู้สนับสนุนที่ทั่วโลกวางใจ Taiwan Excellence พร้อมที่จะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ จากไต้หวันให้กับทั่วโลกในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้

นายกวน จือ ลี ผู้บริหารระดับสูงของสำนักการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน หรือ MOEA กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลกเริ่มสงบลง การอุตสากรรมทั่วโลกจะเริ่มกลับมาดำเนินการเต็มรูปแบบอีกครั้ง และเศรษฐกิจก็จะเริ่มกลับมาคงที่ อุตสาหกรรมเหล่านี้ก็จะเริ่มมีความต้องการในการใช้เครื่องจักรอัจฉริยะเพื่อลดการสูญเสียกำลังการผลิต หากมีเหตุวิกฤติเช่นครั้งนี้ขึ้นอีกครั้ง ไต้หวันพร้อมจะเป็นแหล่งสำคัญในการพัฒนาเครื่องจักรเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ยังอยู่ได้เมื่อวิกฤตการณ์ครั้งนี้จบลง

เกี่ยวกับโครงการ Taiwan Excellence

โครงการ The symbol of Taiwan Excellence ถูกจัดตั้งขึ้นมาเมื่อปี 1992 โดยกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวัน การคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาร่วมงานนั้นขึ้นอยู่กับผลงานการค้นคว้าและวิจัย คุณภาพ การออกแบบ และการตลาด สินค้าที่ได้รับเลือกให้มาแสดงในงานและได้รับรางวัล Taiwan Excellence Awards จะได้รับเกียรติให้เป็นตัวอย่างในวงการอุตสาหกรรมไต้หวัน ทั้งยังได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลในการทำการค้ากับชาติอื่นๆ จากทั่วโลก เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจในไต้หวันอีกด้วย ในปีนี้นับเป็นปีที่ 26 ของโครงการ Taiwan Excellence ที่แบรนด์ต่างๆ จะได้รับการคัดเลือกมาแสดงผลงาน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.taiwanexcellence.org    

เกี่ยวกับสำนักการค้าต่างประเทศ (BOFT), MOEA

สำนักการค้าต่างประเทศ หรือ BOFT เป็นสำนักงานที่อยู่ภายใต้การบริหารของ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (MOEA) โดยมีหน้าที่ในการควบคุมกฎระเบียบและเงื่อนไขในการแลกเปลี่ยนสินค้า ควบคุมเศรษฐกิจ และการลงทุนของต่างประเทศ สำนักงานถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1969 และหน้าที่หลักของสำนักงานคือการปรับเปลี่ยนสภาพเศรษฐกิจให้เอื้อต่อการทำการค้ากับทั่วโลกให้มากขึ้น นอกจากนี้ BOFT ยังได้ทำงานร่วมกับ สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA ในหลายๆ โครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการในไต้หวันหรือโครงการนานาชาติ จากการทำงานร่วมกับ TAITRA มาตลอดหลายสิบปีทำให้ทั้งสององค์กรพร้อมที่จะจับมือกันในการสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวกับการค้า เศรษฐกิจ และการลงทุนของไต้หวันและนานาชาติต่อไป

เกี่ยวกับสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA)

สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA เป็นองค์กรกึ่งเอกชนที่ไม่หวังผลกำไรที่ช่วยส่งเสริมการค้าของไต้หวัน สภาได้ถูกตัดตั้งขึ้นในปี 1970 เพื่อช่วยการค้ากับต่างชาติ สภาส่งเสริมการค้านี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งทางรัฐบาล องค์การอุตสาหกรรม และองค์การการค้าต่างๆ อีกมากมาย สภา TAITRA ได้สนับสนุนธุรกิจของไต้หวันให้มีความมั่นคงมากขึ้น ทั้งยังช่วยส่งเสริมการค้าต่างประเทศให้กลุ่มธุรกิจไต้หวันสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกได้ นอกจากนี้ สภายังได้มีการโปรโมตและสร้าเครือข่ายธุรกิจโดยฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,200 คนที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงไทเป และในสำนักงานอื่นๆ อีกกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA แล้วยังมีองค์กรพันธมิตรอื่นๆ เช่น Taiwan trade Center (TTC) และ Taipei World Trade Center (TWTC) ที่สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA ได้ร่วมงานและสร้างโอกาสให้กับกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ อีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.taitra.org.tw

ททท. เปิดการอบรมหลักสูตร ‘การบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง’ รุ่นที่ 5

นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นป...