‘ยุ้งข้าวหอม’ เสิร์ฟเมนูอาหารใต้จานเด็ดเซ็ตใหม่ พร้อมเปิดตัว ‘เชฟอ้อม-สุจิรา’ เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงฝีมือเลิศ

‘ยุ้งข้าวหอม’ ร้านอาหารใต้รสชาติดั้งเดิม ที่ผสานอาหาร 3 วัฒนธรรมถิ่นใต้เข้าไว้ด้วยกัน และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เปิดตัว เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ เชฟรุ่นใหม่ไฟแรง เจ้าของรางวัล Michelin Guide Young Chef Award คนแรกของประเทศไทย ที่มารังสรรค์เมนูอาหารใต้ เมนูใหม่ของร้าน ‘ยุ้งข้าวหอม’ เชื่อว่าทุกคนจะหลงรักอาหารไทยถิ่นใต้ของร้านยุ้งข้าวหอมมากขึ้นแน่นอน เพราะแต่ละเมนูยังคงรสชาติ และรสสัมผัสของความเป็นอาหารถิ่นใต้ไว้ได้อย่างครบถ้วน

เชฟอ้อม บอกว่า ทุกเมนูใหม่นี้ มาจากแนวคิดเรื่องการผสานวัฒนธรรมทั้ง 3 วัฒนธรรม ได้แก่ ไทย-พุทธ, ไทย-มุสลิม และไทย-จีน ที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย…“รสชาติของอาหารแต่ละท้องถิ่นจะไม่เหมือนกัน อันเป็นลักษณะเด่นของท้องถิ่น ที่เกิดการแลกเปลี่ยนประเพณีและวัฒนธรรม ถ่ายทอดผ่านอาหารทุกจานอย่างลงตัว ความพิเศษของทุกเมนูในร้านยุ้งข้าวหอม อยู่ที่การปรุงอาหารอย่างกลมกล่อมโดยปราศจากผงชูรส และยังเน้นใช้เครื่องแกงทั้งหมดที่เป็นวัตถุดิบและเป็นสูตรของทางร้านเอง เราตำพริกแกงเอง ทำให้ทุกเมนูมีอัตลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบฉบับ ‘ยุ้งข้าวหอม’  

ข้าวยำ-ถ้าพูดถึงเมนูอาหารใต้ ต้องนึกถึงข้าวยำก่อนเลย ข้าวยำแต่ละที่จะมีลักษณะเด่นไม่เหมือนกัน โดยร้านเราจะใช้ผักที่หาได้ง่ายจากท้องถิ่นและชุมชน ไม่ว่าจะเป็น ส้มโอ มะม่วงเปรี้ยว ถั่วฝักยาว งาขาวคั่ว มะพร้าวคั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ตะไคร้ พริกแดงซอย มะนาว หอมแดง ใบชะพลู กุ้งแห้งป่น ผักชีฝรั่ง ยอดกระถิน และน้ำวูดูที่สั่งมา โดยนำมาผสมเครื่องเทศเพิ่มเติมลงไป วิธีรับประทานคือราดน้ำวูดูลงไป แล้วคลุกให้เข้ากัน ถ้าชอบเปรี้ยวก็บีบมะนาวเพิ่มลงไป เมนูข้าวยำนี้ได้ความเฮลท์ตี้เบาๆ  

แกงปูใบชะพลู-เมนูนี้ใช้เนื้อปูก้อน ใบชะพลู พร้อมด้วยพริกแกงที่ทำเอง จึงได้ส่วนผสมที่มีความสดใหม่ ไม่ใส่ผงชูรส น้ำแกงปูมีความเข้มข้น รสชาติเผ็ดกำลังพอดี

ผัดเผ็ดหมูสามชั้นหน่อเหรียง-คนส่วนใหญ่จะรู้จักเมนูนี้ ลักษณะหน่อเหรียงจะเหมือนกับถั่วงอกหัวโตสีเขียวๆ ชาวๆ รสชาติจะมีความมันมากกว่าถั่วงอก แต่ความฉุนกลิ่นแรงจะไม่เท่าสะตอ นำมาผัดกับหมูสามชั้นและพริกแกง ได้ความอร่อยแซ่บร้อนแรงถึงใจ กินคู่กับผักสดทางภาคใต้ที่เสิร์ฟเคียงมา ช่วยแก้เผ็ดได้

ปลาหมึกผัดน้ำดำ-เป็นเมนูยอดนิยมของเกาะยาวน้อย จ.พังงา เมนูนี้เราใช้ปลาหมึกสด ผัดกับน้ำหมึกที่ได้จาก จ.ระนอง ซึ่งมีความหอม แต่ไม่คาว ทานกับข้าวสวยร้อนๆ เหมาะมาก

ขนมโคน้ำกะทิ-เป็นเมนูของหวานที่ทำจากแป้ง ห่อด้วยน้ำตาลโตนดที่ผสมกับเนื้อมะพร้าวทึนทึก กวนจนเหนียวคล้ายคาราเมล แล้วนำมาห่อด้วยแป้งให้เป็นไส้ขนมโค ส่วนน้ำก็ใช้กะทิสด เวลากินก็จะได้ความหวานอร่อยละมุนในคำเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น เชฟอ้อมยังบอกด้วยว่า การมาทานอาหารที่ร้านยุ้งข้าวหอม ยังทำให้ทุกคนได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบไล่ลำดับ ตามแบบฉบับถิ่นใต้ เพราะทุกเมนู มีรสชาติที่โดดเด่น และเพื่อให้เกิดการผสมผสานทุกรสชาติอย่างลงตัว จึงมีการนำขนมหวานท้องถิ่นใต้มาปรุงอย่างพิถีพิถัน เพื่อลดความเผ็ดร้อนหลังจากทานอาหารที่มีรสจัดจ้าน ซึ่งขนมหวานดังกล่าว นอกจากขนมโคน้ำกะทิแล้ว ยังมี ขนมตาหยาบ, โรตีกล้วยเสิร์ฟกับไอศกรีม และโอ้เอ๋ว  

นอกจากนี้ ยังมีเมนูอาหารที่เชฟอ้อมรังสรรค์ขึ้นมาเฉพาะ ที่ร้านยุ้งข้าวหอม อีกมากมายกว่า 40 เมนู เช่น ยำยุ้งข้าวหอม แกงคั่วกระดูกหมูใบยี่หร่า ยำปูนิ่มมะม่วง ซุปจาระเม็ดต้มเต้าเจี้ยว ผัดหมี่ฮกเกี้ยน คั่วกลิ้งเนื้อ แกงส้มปลาใบกะเพรา ชะอมไข่เค็ม และคากิฮ้อง เป็นต้น  

และเพื่อเป็นการตอบรับกระแสเรียกร้องของผู้ที่ชื่นชอบอาหารใต้ เร็วๆ นี้ ทางร้านยุ้งข้าวหอม ยังได้เตรียมพร้อมเปิดสาขาใหม่ล่าสุด เพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งคือ ร้านยุ้งข้าวหอมสาขา CDC และ ร้านยุ้งข้าวหอม สาขาแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งทั้งสองสาขานี้จะทำให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในความจัดจ้านของรสชาติความเป็นอาหารใต้ มีทางเลือกในการเดินทางไปสัมผัสกับรสชาติของอาหารใต้ และสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารใต้อย่างเต็มที่มากขึ้น เชื่อว่าหลังจากที่ทุกคนได้ลิ้มลองอาหารใต้เมนูใหม่ทั้งหมดนี้แล้ว ทุกคนก็จะหลงรัก ร้านยุ้งข้าวหอม มากขึ้น

ร้านยุ้งข้าวหอม อยู่ที่ชั้น G โครงการแอมพาร์ค จุฬาฯ โซน B (ซอยจุฬาฯ 9) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. สอบถามโทร.06-3465-6565