ไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน ที่คนส่วนใหญ่พอได้ไปเยือนแล้วมักจะรู้สึกประทับใจ จนอยากไปเยือนอีกเป็นครั้งที่สอง นั่นก็เพราะไทเปมีสถานที่เก๋ๆ ให้เช็กอินมากมาย
ลองไปดูสถานที่เช็กอินสำหรับการช้อปปิ้ง เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียลมีเดียทั้ง 5 แห่งที่ Life Diary นำมาฝากนี่สิ เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณๆ ที่ชอบท่องเที่ยวบินไปเช็กอินยังสถานที่ห้ามพลาดอื่นๆ ของไทเปด้วยไงล่ะ
ช้อปปิ้งในย่านเก๋ๆ
เชื่อมั้ยว่าแหล่งที่น่าเดินในไทเปมีมากมายหลายแนวจนน่าตกใจ หากคุณไปเดินเล่นแถวต้าเต้าเถิง เหมิ่งก่า และซีเหมินติง นอกจากจะได้ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมอาคารเก่าๆ แล้ว ยังได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมของย่านเหล่านี้ ที่ผสมผสานด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลไปพร้อมกันด้วย
ด้านฝั่งตะวันออกของไทเป ถือได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนที่ตามหาร้านเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย อาทิ ตึกไทเป 101 ที่มีสินค้าแบรนด์เนมมากมาย หรือย่านซินอี้ ที่ทำให้รู้สึกถึงความมั่งคั่ง คึกคัก และมีความเป็นโลกสมัยใหม่ปนอยู่ด้วยของถนนหย่งคัง หรือการได้เข้าไปเยี่ยมชมร้านเล็กๆ เก๋ๆ ที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครซึ่งตั้งอยู่บนถนนจงซานเหนือ เซกชั่น 2 ก็ช่วยทำให้ทริปท่องเที่ยวของคุณมีความน่าสนใจมากขึ้นทีเดียว
เดินเล่นชิลล์ๆ ที่ ครีเอทีฟ พาร์ค
อาคารเก่าแก่เหมือนประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต ถือเป็นสถานที่ไฮไลท์ด้านความคิดสร้างสรรค์ของไทเป เช่น อาคาร Huashan 1914 Creative Park ที่นี่เคยเป็นโรงกลั่นเหล้าองุ่นมาก่อน และอาคาร Songshan Cultural and Creative Park ก็เคยเป็นโรงงานยาสูบมาก่อน หรือแม้แต่อาคารเก่าหลายร้อยปีที่เคยเป็นตลาดอย่าง The Red House ก็ยังมีตึกเก่าๆ ในย่านต้าเต้าเฉิง ซึ่งตอนหลังได้ดัดแปลงเป็นที่รวมตัวของร้านรวงใหม่ๆ มากมาย อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดแสดงลักษณะของตลาดในยุคแรกๆ ทำให้ระลึกถึงสมัยก่อนและได้เห็นการออกแบบอาคารเจ๋งๆ ของคนไต้หวัน
ไหว้พระขอพรวัดดัง
สมัยก่อนที่ไทเปยังไม่ได้รับการพัฒนาเหมือนอย่างในปัจจุบัน ประชาชนส่วนใหญ่มีวัดเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในการใช้ชีวิต ปัจจุบันจึงมีวัดจำนวนไม่น้อยที่อายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ที่ดังสุดๆ ต้องยกให้วัดหลงซาน ถ้าขอเรื่องความรักหรือเนื้อคู่ต้องที่เสียไห่เฉิงหวงเมี่ยว ถ้าขอเรื่องสุขภาพต้องวัดต้าหลงต้งเป่าอัน และยังมีวัดที่น่าสนใจอีก เช่น วัดฉือเซิ่งกง (ในย่านต้าเต้าเฉิง) วัดกวนตู้ เป็นต้น เมื่อมาไทเปไม่เพียงแต่ได้เห็นความเจริญก้าวหน้าเท่านั้น แต่เมื่อเราก้าวเข้าสู่วัดของที่นี่ ยังทำให้เราเห็นศิลปะแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา ฝีมือการแกะสลักไม้ แกะสลักหิน ศิลปะการตกแต่งบนหลังคาวัด พระพุทธรูปที่ทำได้เหมือนจริง จิตรกรรมภาพวาดที่งดงาม แม้จะผ่านเวลามาเป็นร้อยปีแล้วก็ตาม
ชื่นชมดื่มด่ำศิลปวัฒนธรรม
ใครอยากจะดูคลังเก็บสมบัติประจำชาติของชาวจีนเมื่อพันกว่าปีมาแล้ว ห้ามพลาดเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง อาทิ หยกผักกาดขาว หยกหมูสามชั้น สำหรับคนที่ชอบศิลปะสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อย แนะนำให้ไป Taipei Fine Art Museum, Taipei Museum of Contemporary Art และ Treasure Hill ซึ่งเป็นการผสมผสานศิลปะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิต นอกจากนี้บนท้องถนนของไทเป เรายังสามารถเห็นผลงานศิลปะที่วางโชว์ให้เห็นได้ทั่วไป และในย่านซินอี้ ซีเหมินติง คุณยังอาจจะได้เห็นการแสดงของศิลปินที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย
แช่บ่อน้ำร้อนผ่อนคลาย
เรื่องที่มีความสุขที่สุดในไทเปคือการนั่งรถไฟฟ้าไม่ถึงชั่วโมง ก็สามารถไปถึงเป่ยโถว เมืองแห่งน้ำพุร้อน ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวและไอหมอกจางๆ วัฒนธรรมการแช่บ่อน้ำร้อนที่เป่ยโถวเริ่มต้นขึ้นในยุคที่ญี่ปุ่นเข้ามายึดครอง ดังนั้น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญจึงมีการก่อสร้างแบบญี่ปุ่น เช่น Hot Spring Museum, Baitou Museum และ Plum Garden เป็นต้น นอกจากนี้การเยี่ยมชมอาคารสีเขียวของ Taipei Public Library Beitou Branch และบรรยากาศหมอกขาวๆ ที่ปกคลุมเทอร์มอล วัลเล่ย์ ก็ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง หลังจากแช่น้ำร้อนชมบรรยากาศแล้ว ต่อด้วยการเดินตลาดเป่ยโถวเพื่อสัมผัสชีวิตของคนท้องถิ่นก็เก๋ไปอีกแบบ