เมื่อโควิดมา เชื่อว่าอะไรๆ ในชีวิตของเราทุกคนก็ต้องเปลี่ยนไป และใช่จ้ะ…การท่องเที่ยวก็ไม่เว้น! กลัวเชื้อโรคก็กลัวละนะ แต่กลัวไม่ได้ออกไปเห็นโลกภายนอกมากกว่า เราเลยต้องมาช่วยกันหามาตรการเที่ยวแบบปลอดภัย วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาเรียนรู้กับเทรนด์เที่ยวแนวใหม่สไตล์ New Normal ด้วยหลักการปฏิบัติตัวในชีวิตปกติด้วยวิถีใหม่ๆ ไม่ยากหรอกน่า แค่ต้องใช้สติและระมัด ระวังกันขึ้นมาอีกนิดๆ หน่อยๆ แล้วเราทุกคนก็จะได้ออกไปเริงร่ากันด้วยความปลอดภัย เดี๋ยวพอนานๆ ไป อาจจะแฮปปี้กันมากกว่าเดิมก็ได้เน้อ ใครจะรู้??
15 เทรนด์เที่ยวสไตล์ New Normal
1.จองทุกอย่างล่วงหน้า
ถ้าคุณรู้จักรายละเอียดของจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว ข้อต่อมาที่อยากแนะนำคือการจองทุกอย่างล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นจองบัตรหรือคิวการเข้าชมในสถานที่ต่างๆ จองตั๋วเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถ เรือ หรือเครื่องบิน ที่สำคัญที่สุดคือการเลือกจองที่พัก เพราะเดี๋ยวนี้มีที่พักมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ที่พักเกาะล้าน ถ้าหากคุณพบเจอว่ามาพร้อมกับสัญลักษณ์การันตี SHA เพื่อที่ลูกค้าจะได้มั่นใจว่าที่พักเกาะล้านเหล่านั้นสะอาด และถูกทำความสะอาดจริง เพราะในยุคนี้ต้องปรับทุกอย่างให้เข้ากับเทรนด์ New Normal กันสักหน่อย และสำหรับตั๋วเครื่องบินยิ่งถ้าหากสามารถเช็คอินล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ตได้ก็ทำไปเลยจ้า เพราะว่านอกจากจะไม่ต้องไปรอให้เสียเวลาแล้ว ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณไม่ต้องยืนรอต่อคิวกับผู้คนมากหน้าหลายตาเป็นเวลานานๆ ซึ่งถ้าเว้นระยะห่างกันไม่ดี นี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยไม่จำเป็นเด้อ
2.ใส่หน้ากากเข้าหากัน
ไม่ได้แนะนำให้แอ๊บแอ้ใส่กันแต่อย่างใด หากเป็นการใส่หน้ากากอนามัยเอาไว้ตลอดเวลาเมื่อก้าวขาออกไปนอกบ้าน เพราะการใช้หน้ากากอนามัยนั้นมีแต่ได้กับได้ นอกจากหลักๆ จะเป็นการป้องกันตัวเราไม่ให้เอาน้ำลายหรือเชื้อโรคไปปนเปื้อนต่อใครๆ แล้ว ยังเป็นเกราะสำคัญที่จะช่วยไม่ให้เราไปรับเชื้อโรคจากคนหรือที่ต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย ยุคนี้ถ้าไม่มีหน้ากากก็ไม่มีใครอยากต้อนรับเด้อ อย่าลืมเชียว
3.อุปกรณ์ทำความสะอาดต้องพร้อม
เพราะเมื่อทันทีที่เปิดประตูออกนอกบ้าน นั่นหมายถึงการต้องเผชิญกับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมมากมาย ซึ่งเราก็คงไม่มีทางรู้หรอกว่าอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วถ้าเผลอไปแตะไปจับตรงบริเวณที่มีเชื้อโรคติดตัวมา ก็ถือว่าแจ๊คพ็อตเด้อ! ทางแก้ง่ายๆ ที่ทุกคนในยุคนี้รู้กันอยู่ก็คือการหมั่นรักษาความสะอาด สะดวกสุดก็คือบรรดาเจลแอลกอฮอล์ที่ต้องพกเอาไว้ล้างมือกันบ่อยๆ เท่าที่จะทำได้ แถมเดี๋ยวนี้เค้ามีมาให้เลือกหลายหลายรูปแบบเลยนะ จะเป็นแผ่น เป็นก้อน เป็นสเปรย์ เป็นเจล ก็มีหมด หรือจะเลือกพกสบู่ก็ได้ เดี๋ยวนี้เค้ามีสบู่แห้งแบบเป็นแผ่นเล็กๆ พกง่ายไม่เลอะเทอะด้วยเด้อ สะดวกสุดๆ เลยละ
4.สำรวจจุดหมายปลายทาง
จะให้ดี หาข้อมูลของพิกัดที่เราจะมุ่งหน้าไปซักนิดก็ไม่เลวนะ จะได้รู้ว่าช่วงไหนที่คนแน่น ช่วงไหนที่คนน้อย แถวนั้นมีความเสี่ยงที่จะเจอกับผู้ป่วยติดเชื้อมากน้อยแค่ไหน เดินทางได้ด้วยวิธีใดบ้าง สามารถเดินทางได้ด้วยรถส่วนตัวหรือไม่ ถ้าไม่ได้ ต้องใช้วิธีไหน ต้องจองคิวเข้าชมเอาไว้ล่วงหน้ารึเปล่า ในแต่ละวันสามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้กี่คน กี่รอบ จะได้จองล็อคคิวแบบไม่พลาดเป้า ไม่เสียเวลาแล้วก็ยังไม่ต้องไปเบียดเสียดต่อคิวเอาดาบหน้ากับผู้คนด้วยเน้อ เสิร์ชเลย!
5.เลือกเที่ยววันธรรมดา
เป็นที่รู้กันว่าการเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดานั้นทำให้ชีวิตง่ายกว่าช่วงวันหยุดเยอะ เพราะนอกจากจะไม่มีปัญหาการจราจรแล้ว ยังไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนมหาศาลในสถานที่ยอดฮิตทั้งหลาย อยากกินเมนูเด็ดในร้านดังก็แสนง่ายเพราะไม่ต้องรอคิวยาว แถมค่าใช้จ่ายก็ยังมักจะถูกกว่า โอกาสเลือกใช้บริการในที่ต่างๆ ก็มากขึ้นด้วยนะ ปักหมุดลางานล่วงหน้าซักนิด แต่เชื่อว่าชีวิต New Normal ในวันธรรมดา น่าจะถูกใจคุณไม่น้อยเลยละ ลองดู
6.หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด
แม้ว่าแลนด์มาร์คยอดฮิตของหลายพิกัดจะเป็นแหล่งเช็คอินอย่างตลาด พิพิธภัณฑ์ หรือห้างสรรพสินค้า แต่เพราะอากาศที่ไม่ค่อยจะถ่ายเท หรือการมีพื้นที่จำกัดซึ่งมักจะบีบบังคับให้ผู้คนต้องมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเจอเชื้อโรคมากกว่า ลองวางแผนในเรื่องของช่วงเวลาเข้าใช้บริการให้ดี หากเลือกได้ หลีกเลี่ยงช่วงเวลายอดฮิตที่มักจะมีผู้คนหนาแน่นเข้าไว้จะปลอดภัยกว่า หรือว่าจะเลือกไปชิลล์ในสถานที่ใหม่ๆ ซึ่งไม่ใช่แลนด์มาร์คบ้างก็ดีนะ ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับใคร แถมยังทำให้เราเที่ยวดูนั่นนี่ได้สะดวกกว่าด้วย วางแผนล่วงหน้าดีๆ หน่อยแล้วกัน
7.ใช้เวลากับธรรมชาติเพิ่มขึ้น
จากหนุ่ม – สาวที่โปรดปรานชีวิตคึกคักกลางใจเมือง คงจะดีกว่าถ้าคุณเริ่มหันหน้าเข้าหาสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากขึ้น จะเป็นน้ำตก ทะเล ภูเขา หรือป่าไม้ แบบไหนก็ได้ที่คุณน่าจะแฮปปี้ ได้หมดทุกที่นั่นละ เพราะอย่างน้อยแต่ละแห่งก็มีขนาดพื้นที่ที่กว้างขวางพอสำหรับการเว้นระยะห่างของทุกคน แถมยังมีลมพัดผ่านและอากาศที่ถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา แค่นี้ก็เป็นปัจจัยเบื้องต้นที่ดีมากแล้วละที่จะพาให้คุณมีความเสี่ยงกับโควิดน้อยลง แถมอากาศที่ดี รวมถึงการได้เดินท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยๆ ยังทำให้คุณผ่อนคลายและได้ออกกำลังกายไปด้วยในตัวด้วยนะ ดีครบคุ้มค่าไปเลยเด้อ
8.เลือกเดินทางแบบส่วนตัว
การใช้รถของเราเองน่าจะเป็นทางเลือกที่ทำให้มั่นใจในความสะอาดปลอดภัยได้มากที่สุดแล้วละในนาทีนี้ เพราะคุณรู้ทุกขั้นตอนในการดูแลรักษาความสะอาด แถมนี่ยังเป็นพื้นที่ส่วนตัวซึ่งมีแค่คุณกับคนที่ไว้ใจได้เท่านั้นที่จะได้ใช้ แต่หากคุณไม่มีรถเป็นของตัวเองก็อย่าเพิ่งน้อยใจ เพราะยังสามารถเลือกใช้รถสาธารณะได้ เพียงแต่ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่คุณมีเช็ดถูอีกทีก่อนใช้บริการเพื่อความปลอดภัย และพยายามอยู่ในพื้นที่ที่คุณทำความสะอาดไปแล้วเท่านั้น เท่านี้ก็เดินทางกันได้อย่างค่อนข้างปลอดภัยไร้กังวลแล้วละ
9.ใช้เงินสดให้น้อยที่สุด
ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการให้คุณจำกัดจำเขี่ยการใช้จ่ายแต่อย่างใด หากหมายถึงการชวนให้คุณหันมาใช้จ่ายด้วยวิธีอื่นเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต การโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่น หรือการใช้บัตรเติมเงินทั้งหลาย เพราะนอกจากคุณจะไม่ต้องเสี่ยงติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้คนและข้าวของเวลาจ่ายหรือรับเงินทอนแล้ว ยังไม่ต้องเสี่ยงกับอันตรายจากการควักเงินสดเข้าๆ ออกๆ ล่อตาคนร้ายด้วยนะ อันนี้เรียกว่าดีแบบสองเด้งไปเลย!
10.พกภาชนะส่วนตัว
แม้ว่าจะมีบางคนเริ่มต้นพกแก้วส่วนตัวกันมาบ้างระยะหนึ่งแล้ว แต่ที่จะชวนให้ทำกันในยุค New Normal ในคราวนี้ ก็คือการมีภาชนะเป็นของตัวเองแบบครบเซ็ต ไม่ว่าจะเป็นแก้ว หลอด จาน ช้อน ส้อม หรือตะเกียบ เพื่อที่คุณจะได้กินอาหารนอกบ้านได้อย่างสะดวกใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยและความสะอาด แล้วอย่าเพิ่งเบ้ปากว่าจะแบกกันยังไงไหว เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีกล่องข้าวที่พกง่ายแถมมีที่ให้ใส่ช้อน ส้อม ตะเกียบ เสียบมาพร้อมกันได้เลยจ้า นอกจากจะได้ความสบายใจแล้ว ยังได้ช่วยลดขยะ ลดการใช้ทรัพยากร ลดภาวะโลกร้อนจากการใช้อุปกรณ์สิ้นเปลืองให้เหลือทิ้งด้วยเด้อ เก๋จะตาย!
11.เน้นกินอาหารจานเดียวเป็นหลัก
หากว่าคุณไม่สะดวกจริงๆ ในการพกพาภาชนะไปไหนต่อไหน เลือกกินเลือกใช้อุปกรณ์ที่ร้านก็ได้จ้า แต่ว่าข้อสำคัญคือพยายามกินอาหารร่วมกันให้น้อยที่สุด ซึ่งอาหารจานเดียวแบบที่ไม่ต้องปะปนกับใครถือเป็นช้อยส์ที่น่าสนใจที่สุดแล้วละ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นมื้ออร่อยที่อยากกินกับข้าวหลายอย่างร่วมกัน ช้อนกลางคือสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เด้อ อย่างที่เค้าโหมโปรโมทกันอยู่นั่นล่ะ กินร้อน ช้อนเรา คือปลอดภัยสุดละในยุคนี้
12.สัมผัสทุกอย่างให้น้อยที่สุด
ในเมื่อเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเชื้อโรคทั้งหลายนั้นจะตกค้างฝังตัวอยู่ตรงไหน แน่นอนว่าสิ่งที่เราทำได้คือการแตะต้องทุกอย่างให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นมือจับประตู ราวบันได ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้หรือสินค้าตัวอย่างในเวลาที่ออกไปช้อปปิ้ง หรือจะเป็นการหยิบจับลองเครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า จนถึงการเลือกซื้อหาของใช้ของฝากและบรรดาอาหารการกินทั้งหลาย ซึ่งควรใช้การดูด้วยตาเพื่อพิจารณาสิ่งที่คุณอยากได้ เมื่อพอใจแล้วค่อยหยิบขึ้นมาดูให้ชัวร์อีกซักครั้งก่อนนำไปจ่ายเงิน แทนที่จะเลือกแล้วเลือกอีกด้วยวิธีหยิบๆ วางๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งต่างๆ ไม่ได้จริงๆ ละก็ … ใช่จ้ะ ล้างมือให้บ่อยที่สุดนั่นละ คือคำตอบที่ควรต้องทำ
13.กินไป เม้าท์ไป ให้น้อยลง
รู้แหละว่ายาก เพราะเวลากินอาหารน่ะคือเวลาที่การเม้าท์มอยมีรสมีชาติและบันเทิงที่สุด จริงมั้ย? แต่การกินไป คุยไป หัวเราะไป อย่างเมามันนี่ละ เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมเสี่ยงต่อการที่เศษอาหารหรือน้ำลายของคุณจะลงไปในอาหารของคนอื่นที่อยู่ใกล้ ถ้าทำได้ เม้าท์ให้ออกรสออกชาติน้อยลงอีกนิด หรือหากไปแค่สองคน ลองเลือกใช้วิธีการนั่งข้างกันในโต๊ะอาหาร แทนการนั่งฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งเสี่ยงต่อการที่อาหารหรือน้ำลายจะกระเด็นลงไปน้อยกว่า เผลอๆ อาจได้บรรยากาศดีๆ ไปอีกแบบด้วยนะ ลองดู
14.หมั่นเช็คอินไว้เตือนความจำ
นอกจากจะได้ประกาศผ่านโลกโซเชียลว่าเราทำอะไร อยู่ที่ไหน วันไหน เวลาใดแล้ว การเช็คอินยังเป็นเหมือนสมุดบันทึกออนไลน์ที่เราจะย้อนกลับไปดูได้หากเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อในสถานที่นั้นๆ เพราะถ้าให้นั่งจำทุกวันก็คงทำกันได้ยากหน่อยละ หรือจะเถียง? แต่ถ้าไม่อยากประกาศในโลกโซเชียล การเช็คอินผ่านแอพพลิเคชั่นอย่าง ‘ไทยชนะ’ ในบ้านเราก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไป หรือจะเลือกบันทึกประวัติการเดินทางเอาไว้ใน google map ก็ได้นะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่สะดวกและน่าสนใจ แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวกว่าด้วย
15.เลือกใช้บริการที่พักซึ่งได้มาตรฐาน
นอกจากการพิจารณาในเรื่องราคาและดีไซน์ที่ตรงกับใจคุณแล้ว ในยุค New Normal แบบนี้ อีกสิ่งนึงที่มองข้ามไปไม่ได้ก็คือการเลือกใช้บริการที่พักซึ่งจะให้ความมั่นใจกับคุณในเรื่องของมาตรการรักษาความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการปัดกวาดเช็ดถู บริการแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่างๆ ในที่พัก ไปจนถึงการรักษาความสะอาดในห้องพักอย่างการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือการฆ่าเชื้อโรคด้วยวิธีต่างๆ กันไป อาจจะต้องใช้เวลาดูรายละเอียดในตอนเลือกอีกนิด แต่เมื่อเทียบกับความปลอดภัยและความสบายใจในการพักผ่อนระหว่างเดินทางท่องเที่ยวของคุณแล้ว มันคุ้ม!
นอกจากทั้งหมดที่เราเอามาฝากกัน คุณยังต้องหมั่นสังเกตตัวเองอย่างถี่ถ้วนเข้าไว้ เมื่อมีอาการผิดปกติของร่างกายไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยไข้เล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ควรเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลตัวเองเอาไว้ก่อนนะ เพื่อความปลอดภัย เราทุกคนจะได้เที่ยวอย่างสบายใจในยุค Covid-19 แบบนี้ แม้วิถีชีวิตแบบ New Normal อาจทำให้คุณรู้สึกยุ่งยากวุ่นวาย แต่ลองเปิดใจดูซักระยะ แล้วคุณจะพบว่าทั้งหมดนี้ทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไป แต่ในแง่ที่สะอาดและปลอดภัยขึ้นอีกเยอะเลยนะ เราว่ามันก็คุ้มอยู่ อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องกลับมาล็อคดาวน์กันอีกรอบเพราะการระบาดระลอกใหม่น้า ลองทำดูก่อนจ้า เชื่อว่าไม่ยากเกินกว่าจะปรับตัวกันได้อย่างแน่นอน