การทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในปัจจุบัน โดยหลายคนมักจะเลือกทำประกันชีวิตเพื่อลดภาระภาษี ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ทำประกัน และลดภาระค่าภาษีที่ต้องเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีข้อมูลเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีมากมาย และการเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมอาจยากต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ ดังนั้นบทความนี้จะช่วยอธิบายเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีตัวไหนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ โดยเน้นไปที่การตอบโจทย์ความต้องการของคุณในการทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ
ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้ เหมาะกับใครบ้าง
การทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ที่ต้องการทำประกันชีวิตและต้องการลดภาระภาษีรายปี การทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระภาษีแต่ยังช่วยในการบริหารจัดการความเสี่ยงในชีวิตด้วยดี
ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้ มีทั้งหมดกี่แบบ
ประกันชีวิตที่ลดหย่อนภาษีได้ จะมีอยู่ 2 แบบ ดังนี้
1.ประกันชีวิตแบบทั่วไป
ประกันชีวิตแบบทั่วไปเป็นประเภทหนึ่งของประกันชีวิตที่สามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้จริงๆ โดยต้องไม่เกินจำนวนเงิน 100,000 บาทต่อปี ประกันชีวิตแบบทั่วไปมีหลากหลายประเภท เช่น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา และประกันชีวิตแบบควบการลงทุน นอกจากนี้หากซื้อประกันชีวิตให้กับคู่สมรสตามกฎหมายที่ไม่มีรายได้ ก็จะสามารถหักเพื่อช่วยลดหย่อนภาษีได้ถึง 10,000 บาทต่อปี
2.ประกันชีวิตแบบบำนาญจะช่วยป้องกันรายได้ของคุณหลังอายุเกษียณ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินคืนให้ทุกปีจนกว่าจะเสียชีวิต และเมื่อครบสัญญาก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 15% ของรายได้ โดยจำกัดไม่เกิน 200,000 บาท
ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีตัวไหนดี
1.ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life)
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองกับผู้เอาประกันไปจนถึงเวลาเสียชีวิต มีราคาเบี้ยประกันไม่สูงมาก หากทำประกันตั้งแต่อายุยังน้อย ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบตลอดชีพจะยิ่งถูกลงไปอีก และประกันชีวิตแบบตลอดชีพยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทเท่านั้น
2.ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา คือ ประกันชีวิตที่ออกแบบมาให้ความคุ้มครองเฉพาะในช่วงเวลา 10 – 20 ปีเท่านั้น แต่ราคาเบี้ยประกันไม่แพงมาก และต้องจ่ายเบี้ยประกันให้กับบริษัทที่ไม่แพง แม้กระนั้นหากผู้เอาประกันไม่เสียชีวิตก่อนสิ้นสุดสัญญา จะไม่ได้รับผลตอบแทนจากบริษัท แต่ก็ยังสามารถนำประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท
3.ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment)
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ถือเป็นหนึ่งในประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นประกันชีวิตที่นอกจากจะสามารถช่วยทำให้มีเงินเก็บสะสมแล้ว ก็ยังเป็นรูปแบบประกันที่สามารถนำไปช่วยลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท โดยการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะให้ความคุ้มครอง 10 ปี หากเสียชีวิตบริษัทก็จะจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ แต่หากยังมีชีวิตจนครบสัญญาก็จะได้รับผลตอบแทนที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์
4.ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ Investment Linked Life Insurance
ประกันชีวิตควบการลงทุน เป็นอีกหนึ่งประกันชีวิตที่สามารถนำไปช่วยลดหย่อนภาษีได้ แต่จะสามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้เฉพาะค่าใช้จ่ายเท่านั้น นอกจากนี้ประกันชีวิตควบการลงทุนก็ยังทำเป็นประกันที่เปิดโอกาสในการลงทุนอีกด้วย
Meprakan (มีประกัน) ห่วงใยสุขภาพคนไทย และหวังว่า” Meprakan (มีประกัน)” จะได้รับการตอบรับที่ดี จากลูกค้าที่มองเห็นความสำคัญการดูแลสุขภาพและเลือกประกันที่ได้รับการคุ้มครองผลประโยชน์คุ้มค่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันให้มากที่สุด https://meprakan.com/