Monday 10 November 2025 | 9 : 59 pm

BDMS Wellness Clinic จุดประกายพลังเศรษฐกิจสุขภาพไทย สู่ยุค Wellness Economy 5.0 ณ งาน BDMS Academic Annual Meeting 2025

บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวลเนสประเทศไทย ในงานประชุมวิชาการประจำปี BDMS ACADEMIC ANNUAL MEETING 2025 ภายในธีม STRIVING FOR HEALTHCARE EXCELLENCE ACROSS THE LIFESPAN: FROM PREVENTION TO PRECISION MEDICINE นำโดยเซสชัน Wellness Economy 5.0 โดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และแขกรับเชิญอันทรงเกียรติอีกมากมาย อาทิ คุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ, เชฟปู หรือ คุณปูริดา ธีระพงษ์ Executive Chef of Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok, รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, คุณศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้, คุณวรวิทย์ ศิริพากย์ Founder & Chief Executive Officer of PAÑPURI, ดร. สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ นักแสดงและนางแบบมากความสามารถ, คุณธนา เธียรอัจฉริยะ Founder House of Wisdom และ เจ้าของเพจ “เขียนไว้ให้เธอ” พร้อมสปีกเกอร์ท่านอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ได้มาแบ่งปันแนวคิด พร้อมเคล็ดลับในการเสริมสร้างคอมมูนิตีคนสุขภาพดีให้ประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568

Wellness is the New Wealth: นาทีทองของเศรษฐกิจเวลเนสไทยที่ทั่วโลกจับตา

หนึ่งในเซสชันไฮไลท์ของงาน ได้แก่ หัวข้อ “Wellness Economy 5.0” นำโดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ Founder House of Wisdom และ เจ้าของเพจ “เขียนไว้ให้เธอ” ที่ได้ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์สำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Wellness Hub ระดับโลก พร้อมชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเชิงป้องกันของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Wellness Economy 5.0” ที่ผสานเทคโนโลยี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และศาสตร์สุขภาพของประเทศไทยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของประชาชน

นอกจากนี้ นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเติบโตของมูลค่าตลาดเวลเนสสูงที่สุดในโลก โดยในช่วงปี 2565–2566 มูลค่าตลาดเวลเนสของไทยเติบโตสูงถึง 28.4% สะท้อนถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสุขภาพระดับโลกอย่างแท้จริง ทั้งนี้ในภาคส่วนของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) พบว่าเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตโดดเด่นที่สุด โดยมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 119.5% ซึ่งถือเป็นอันดับสองของโลกรองจากประเทศจีน ตามมาด้วยการเติบโตของกลุ่มอาหารสุขภาพและการควบคุมน้ำหนัก, กลุ่มการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลและความงาม, การขยายตัวของแพทย์แผนโบราณและแพทย์ทางเลือก, รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพในมิติอื่นๆ ตามลำดับ

“ประเทศไทยของเราเปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยหนึ่งในจุดแข็งสำคัญที่ได้รับความนิยมสูงสุดในระดับนานาชาติ คือ สปาและภูมิปัญญาการนวดแผนไทย ไม่ว่าจะเป็นการนวดประคบสมุนไพร หรือการนวดกดจุดสะท้อนเท้า ซึ่งดำเนินการโดยแพทย์แผนไทยและนักกายภาพบำบัดที่มีความชำนาญการ นอกจากนี้ สมุนไพรไทยยังถือเป็นอีกหนึ่งขุมทรัพย์ล้ำค่าของประเทศ โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 12,211 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของภูมิปัญญาไทยที่สามารถต่อยอดสู่เศรษฐกิจเวลเนสได้อย่างมีศักยภาพ” 

นอกจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว อาหารไทยที่มีเอกลักษณ์และดีต่อสุขภาพ, ธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและอุดมสมบูรณ์, รวมถึงความชำนาญการของบุคลากรทางการแพทย์ไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Wellness Hub ระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสุขภาพระดับสากลได้นั้น เราต้องเริ่มต้นจากการทำให้ ‘คนไทย’ แข็งแรงก่อน เพราะเรื่องสุขภาพไม่ใช่เพียงเรื่องของปัจเจกบุคคล แต่เป็นประเด็นสำคัญในระดับชาติ ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอดในปี พ.ศ. 2576 ซึ่งหมายความว่า เมื่ออายุขัยเฉลี่ยของประชากรเพิ่มสูงขึ้น แต่อายุขัยสุขภาพเพิ่มขึ้นตามไม่ทัน ระยะเวลาที่ต้องอยู่กับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ก็จะยาวนานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จึงจำเป็นต้องร่วมมือกันในการปรับระบบสุขภาพไทยจากรูปแบบ Reactive Healthcare ที่เน้นการรักษาเมื่อเกิดโรค ไปสู่ Proactive Healthcare หรือการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และเมื่อเราสามารถก้าวข้ามความท้าทายนี้ไปได้ร่วมกัน ประเทศไทยจะสามารถยืนอยู่ในฐานะศูนย์กลางสุขภาพระดับโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ” นายแพทย์ตนุพลกล่าวทิ้งท้าย

ดูแลโลก ดูแลใจ และดูแลสุขภาพ กับเกษตรอินทรีย์: เคล็ดลับวัย 92 ปีของคุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ

หากพูดถึงหนึ่งใน Soft Power ของประเทศไทยที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ข้าวไทย” คือตัวแทนแห่งภูมิปัญญา วัฒนธรรม และสุขภาพที่คนทั่วโลกชื่นชม และหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสืบสานและพัฒนาข้าวไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ คือ คุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ หญิงเก่งผู้เปี่ยมด้วยพลังและความมุ่งมั่น แม้ในวัย 92 ปี ก็ยังคงแข็งแรง สดใส และไม่หยุดสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อสังคม

คุณวัลลีย์คือผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันให้เกิด “ข้าวสุโข” ถึง 6 สายพันธุ์ ซึ่งล้วนอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพ เธอเริ่มต้นเส้นทางเกษตรอินทรีย์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 จากแรงบันดาลใจและความตั้งใจของเธอและนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้งบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ที่มุ่งส่งเสริมแนวทางเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อคืนสมดุลให้ธรรมชาติและสร้างสุขภาพที่ยั่งยืนให้กับผู้คน ผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นนั้นได้กลายเป็น “ข้าวสุโข” ข้าวไทยคุณภาพสูงจากจังหวัดสุโขทัย ที่สะท้อนทั้ง คุณค่าแห่งสุขภาพ วิถีเกษตรอินทรีย์ และจิตวิญญาณแห่งความยั่งยืน

ภายในงาน BDMS Academic Annual Meeting 2025 คุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ ได้ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้าน เกษตรอินทรีย์ พร้อมร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ร่วมงานในการดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน นอกจากนี้ยังได้ร่วมจัดกิจกรรมสุดพิเศษ Cooking Live Session เคียงข้างกับ เชฟปู หรือ คุณปูริดา ธีระพงษ์ Executive Chef of Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok เพื่อรังสรรค์เมนูสุขภาพ “หลนข้าวหมาก” ที่ใช้วัตถุดิบหลักจาก ข้าวสุโขทัย 3 สายพันธุ์ อันเป็นข้าวอินทรีย์คุณภาพสูงที่ปลูกด้วยความใส่ใจจากไร่ของคุณวัลลีย์เอง พร้อมรับฟังเคล็ดลับการดูแลสุขภาพในวัย 92 ปี ที่ได้แบ่งปันอย่างเป็นกันเอง ไม่ว่าจะเป็นแนวทางด้านโภชนาการที่สมดุล การเลือกบริโภคอาหารจากธรรมชาติ รวมถึงการออกกำลังกายและการดูแลใจให้มีความสุขอยู่เสมอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความงามและความแข็งแรงอย่างยั่งยืนนั้น เกิดขึ้นได้จากการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

จากเมืองที่เทพสร้าง สู่เมืองที่คนร่วมสร้าง: วิสัยทัศน์การพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ในแบบฉบับของท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

กรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิต สีสัน และความหลากหลาย กำลังเผชิญกับความท้าทายของการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งในมิติของสิ่งแวดล้อม การคมนาคม คุณภาพชีวิต และความเหลื่อมล้ำทางสังคม ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แสดงให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ของการ “สร้างเมือง” ที่ไม่ได้ฝากไว้กับโชคชะตาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป โดยท่านผู้ว่าฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาเมืองกรุงเทพด้วยจุดมุ่งมั่นที่จะยกระดับกรุงเทพฯ ให้ไม่เพียงแค่เป็นเมืองที่มีผู้เดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก แต่ยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ในอันดับต้น ๆ และสามารถส่งเสริม “คุณภาพชีวิต” ให้กับประชากรในกรุงเทพมหานครได้อย่างเท่าเทียม

โดยท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยว่า ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ท่านได้วาง “กลยุทธ์” การพัฒนาเมืองในหลายมิติ เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่ทุกคนสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างเท่าเทียม หนึ่งในแนวคิดสำคัญคือการพัฒนา “เส้นเลือดฝอยของกรุงเทพฯ” ซึ่งหมายถึงตรอก ซอก ซอย และพื้นที่ชุมชนเล็ก ๆ ที่มักถูกมองข้าม หากเปรียบกรุงเทพฯ เป็นร่างกาย เส้นเลือดใหญ่คือถนนสายหลักและย่านธุรกิจซึ่งมีความสำคัญ แต่ “เส้นเลือดฝอย” เหล่านี้ก็เป็นหัวใจของชีวิตเมืองที่หล่อเลี้ยงวิถีผู้คนให้ดำเนินไปได้อย่างมีคุณภาพไม่แพ้กัน ดังนั้นการพัฒนาเส้นเลือดฝอยจึงเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญ เพื่อให้กรุงเทพฯ เติบโตอย่างทั่วถึงและยั่งยืน พร้อมสร้าง “ความสุขที่เข้าถึงได้” ให้กับคนทุกกลุ่มในเมืองนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นโครงการสวน 15 นาทีใกล้บ้าน โครงการพัฒนาทางเท้า 1,000 กม. โครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น โครงการศูนย์ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนในชุมชน โครงการห้องเรียนดิจิทัล และโครงการเพื่อสังคมอื่น ๆ อีกมากมาย

ปล่อยใจให้ผ่อนคลายด้วย ‘กลิ่น’ ศาสตร์และศิลป์ที่ช่วยคลายอาการ ‘Burn Out’ โดย PAÑPURI

‘กลิ่น’ คือสิ่งที่ช่วยให้เราเครียด หรือผ่อนคลาย ซึ่งมีผลต่อสุขภาพองค์รวมของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในเซสชันนี้ คุณวรวิทย์ ศิริพากย์ Founder & Chief Executive Officer of PAÑPURI ร่วมสัมผัสพลังการบำบัดจากกลิ่นธรรมชาติ ผ่านศาสตร์และศิลป์แห่งกลิ่นบำบัด (Aromatherapy) ที่ช่วยคืนสมดุลให้กับจิตวิญญาณของผู้เข้าร่วมทุกท่านในมิติที่หลากหลาย

ตลอดช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ ผู้เข้าร่วมได้ทำความเข้าใจถึงบทบาทของกลิ่นในฐานะ “เครื่องมือบำบัดอารมณ์” ที่สามารถช่วยลดความตึงเครียด กระตุ้นสมาธิ และสร้างพลังบวกให้กับร่างกาย พร้อมทั้งได้สัมผัสและเรียนรู้ความแตกต่างของกลิ่นแต่ละชนิด ซึ่งแต่ละกลิ่นล้วนมีคุณสมบัติเฉพาะในการฟื้นฟูสุขภาพ เช่น การกระตุ้นพลังงานชีวิต การสร้างความสงบภายใน  ในขณะที่กลิ่นบางกลิ่นสามารถลดฮอร์โมนความเครียด และมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกายเช่นเดียวกัน

เคล็ด(ไม่ลับ) การดูแลตัวเองจากภายในด้วย Scientific Wellness กุญแจของความงามที่ไม่เสื่อมตามกาลเวลาของ ดร.แอน สิเรียม

ในยุคที่ความงามไม่ได้หมายถึงเพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่คือ “สุขภาพที่ดีจากภายใน” ดร.แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ นักแสดงและนางแบบมากความสามารถ ได้ถ่ายทอดแนวคิดการดูแลสุขภาพองค์รวมผ่านศาสตร์ Scientific Wellness ที่มุ่งเน้นการเข้าใจร่างกายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญของ “ความงามที่ไม่เสื่อมตามกาลเวลา” โดยคุณแอนได้มาแชร์ประสบการณ์การดูแลสุขภาพร่วมกับ แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์ ศรีตั้งรัตนกุล รองผู้อำนวยการคลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟู และ ผู้อำนวยการคลินิกผิวพรรณ, ความงาม และสุขภาพเส้นผม BDMS Wellness Clinic พร้อมเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบเฉพาะบุคคล การรับประทานวิตามินเฉพาะบุคคล การตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน และการทำทรีทเมนต์ผม ณ BDMS Wellness Clinic

จากน้ำหนัก 100 โล…สู่สุขภาพดี 100 ปี” เส้นทางแห่งแรงบันดาลใจของคุณโจ้ x หมอแอร์ ผ่านพลังของการ ‘วิ่ง’

ในยุคที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นไลฟ์สไตล์ “การวิ่ง” ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ  โดยการวิ่งเป็นหนึ่งในกีฬาที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของใครหลายคน เช่นเดียวกับเรื่องราวของ คุณโจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ Founder House of Wisdom และ เจ้าของเพจ “เขียนไว้ให้เธอ” ชายที่เคยมีน้ำหนักตัวเกือบ 100 กิโลกรัม แต่สามารถพลิกชีวิตด้วยการวิ่ง จนกลับมามีสุขภาพแข็งแรงได้อีกครั้ง และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการวิ่งพร้อมกับส่งเสริมสุขภาพ ในเซสชันนี้ จึงได้มี คุณหมอแอร์ หรือ นายแพทย์อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา แพทย์หัวใจและการกีฬา BDMS Wellness Clinic และ Founder Avarin Running มาแชร์ทริคการวิ่งและการดูแลสุขภาพหัวใจ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ออกวิ่งอย่างมีคุณภาพไปพร้อมๆ กัน

นอกจากเซสชันไฮไลท์ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีเซสชันที่น่าสนใจจากวิทยากรผู้เปี่ยมไปด้วยความรู้อีกมากมาย เช่น เซสชัน Why is exercising decisive for the health of aging population? : ก้าวเข้าสู่วัย ‘เกษียณ’ อย่างมั่นใจ ด้วยพลังแห่งการ ‘ขยับตัว’ โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์จีรี ดโวชัค Senior Executive Advisor of BDMS Wellness Clinic และ Senior Advisor Schulthess Clinic Zurich, Switzerland เซสซัน The Role of University in Thailand Wellness Hub: มหาวิทยาลัยไทยกับบทบาทสำคัญในการปั้นแพทย์ สู่อนาคตแห่งการเป็น Wellness Hub โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ เซสซันการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้มีสุขภาวะทางการเงินที่ดีอย่าง Financial Wellness: The next frontier of holistic well-being: สุขภาพทางการเงิน: พรมแดนใหม่ของสุขภาวะองค์รวม โดย คุณศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้

งาน BDMS Academic Annual Meeting 2025 นับเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมองค์ความรู้ด้านสุขภาพเชิงป้องกันจากคณะแพทย์ และผู้นำในแวดวงเวลเนสทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้แนวคิดการยกระดับประเทศไทยสู่การเป็น Wellness Hub ระดับสากล ผ่านการนำเสนอวิสัยทัศน์ มุมมอง และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ตลอดจนการแบ่งปันแรงบันดาลใจจากบุคคลต้นแบบด้านสุขภาพในหลากหลายมิติ ซึ่งล้วนสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของ BDMS Wellness Clinic ในการส่งเสริม “สุขภาพเชิงป้องกัน” เพื่อสร้างสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน