“บ้าน” คือศูนย์รวมความสุขของสมาชิกทุกคนในบ้าน และหากว่าบ้านมีการจัดฮวงจุ้ยที่ดี จะยิ่งเสริมให้ผู้อยู่ร่ำรวยมั่งมีได้อีกด้วย หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา หมอดูคนดัง แนะไอเดียปรับฮวงจุ้ยบ้านให้รับทรัพย์ ด้วยวิธีที่ทุกคนทำตามได้ไว้อย่างน่าสนใจ ในงาน “SCG HOME & Living Fair” งานแฟร์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีสำหรับคนรักบ้าน ซึ่งจัดขึ้นที่ เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ โครงการ CDC เลียบด่วนรามอินทรา
“ฮวงจุ้ย” หรือในภาษาจีนกลางคือ Feng Shui (เฟิงสุ่ย) มาจากคำสองคำคือ ‘เฟิง’ แปลว่า ‘ลม’ และ ‘สุ่ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ดังนั้น ทฤษฎีของฮวงจุ้ยที่ดี จึงว่ากันด้วยทิศทางการหมุนเวียนของลมและการไหลเวียนของน้ำนั่นเอง
‘ลม’ ของฮวงจุ้ยจะพัดพาพลังชี่ (Shi) เข้ามาภายในบ้าน ฉะนั้น การจัดฮวงจุ้ยก็คือ การจัดพลังชี่ในบ้านให้ลมเกิดการหมุนเวียนในทิศทางที่ดีตามองศาของประตูและหน้าต่าง ถ้าจัดฮวงจุ้ยได้ถูกต้อง ตามตำราบอกว่า อยู่ 1 ปีก็รวย 10 เท่า ในทางกลับกันถ้าพลังชี่ไม่ดี อยู่ 1 ปีก็อาจจะจน 10 เท่าก็เป็นได้ สิ่งที่ต้องระวังเวลาจัดฮวงจุ้ยบ้านคือ ‘มุมของทางสามแพร่ง’ หรือ ‘เหลี่ยมของเสาหน้าบ้าน’ ห้ามมีมุมแหลมๆ พุ่งเข้ามาในบ้านเด็ดขาด และต้องระวังประตูที่เปิดเข้าตัวบ้าน (ไม่ใช่ประตูรั้ว เพราะประตูรั้วมีผลกับฮวงจุ้ยน้อยมาก) แนะนำว่าในวันที่อากาศดี ควรเปิดประตูตัวบ้านทิ้งไว้ให้ลมหมุนเวียนเข้ามา หรือเปิดหน้าต่างให้แสงแดดเข้ามาก็จะได้รับพลังชี่ที่ดี บ้านไหนที่มีประตูเข้าบ้าน 2 ประตู ควรใช้ประตูหลักที่ใหญ่กว่าให้บ่อยๆ เพราะตามหลักฮวงจุ้ยแล้วถือว่าประตูใหญ่เป็นทางเข้าของมังกร หากทางสามแพร่งหรือเสาไฟฟ้าเกิดอยู่ตรงกับประตูหลักที่เข้าตัวบ้าน อันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดี เพราะทำให้พลังชี่เข้ามาได้น้อย สามารถแก้ไขได้โดยนำต้นไม้ขนาดเล็กที่กำลังนิยมมาตั้งไว้ หรืออาจแขวนโมบายที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง ก็จะช่วยลดพลังที่ไม่ดีลงได้ ส่วน ‘เลขที่บ้าน’ นั้น ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว เลขที่บ้านมีผลต่อฮวงจุ้ยน้อยมาก การจัดฮวงจุ้ยนั้นเป็นศาสตร์ที่ต้องควบคุมพลังชี่ที่อยู่รอบตัวเราเป็นหลัก ฉะนั้นสิ่งที่ทุกคนต้องทำก็คือ จัดการกับพลังชี่ในบ้านของเราให้ได้ก่อน
บ้านที่มีประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน
อันนี้ไม่ดี เพราะเมื่อพลังชี่เข้ามาในบ้านมันก็จะพุ่งออกไปเลย จึงเป็นบ้านที่เก็บเงินไม่ได้ แม้หาเงินได้เยอะ นั่นคือพลังชี่อาจจะเข้ามาเยอะ แต่มันพุ่งออกไปเร็วมาก เปรียบดั่งหาเงินได้ แต่รายจ่ายก็เยอะ วิธีแก้คือ หาตู้โชว์ พาร์ทิชั่น หรือเฟอร์นิเจอร์ มาตั้งตรงกลางระหว่างประตูหน้าและประตูหลัง เมื่อพลังชี่เข้ามาก็จะถูกกักให้หมุนเวียนอยู่ในบ้าน ประตูเข้าตัวบ้านต้องเปิด-ปิดง่าย ปิดแล้วเสียงต้องไม่ดัง จะทำให้มีโชคลาภเงินทองไหลเข้ามา
ห้องนั่งเล่น (Living Room)
ห้องนั่งเล่นถ้าใช้งานบ่อย พลังงานที่ดีก็จะเข้ามาในบ้าน พูดง่ายๆ ว่าบ้านเปรียบเสมือนอวัยวะในร่างกาย ฉะนั้น ถ้ามีห้องไหนที่ทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานนานๆ ก็เหมือนเราไม่ได้ขยับอวัยะส่วนต่างๆ ในร่างกายเลย พลังชี่จะไม่เข้ามา สิ่งที่อยากให้มีในห้องนั่งเล่น ถ้าชอบของมงคลแนวจีน แนะนำให้ตั้งรูปปั้นฮกลกซิ่ว จะช่วยให้พบกับความสำเร็จ 3 ประการคือ ครอบครัวดี หน้าที่การงานดี และสุขภาพดี แต่หากชอบของแต่งบ้านสมัยใหม่ ให้เลือกโคมไฟคริสตัล หรือคริสตัลสวยๆ ตั้งในตู้โชว์ เพราะจะช่วยกระจายพลังชี่ได้ อีกอย่างที่ห้องนั่งเล่นไม่ควรมีคือ โต๊ะสำหรับทานข้าว
ห้องครัวคือหัวใจของบ้าน
ครัวคือโชคชะตาของผู้หญิงในบ้าน ถ้าครัวทรุดผู้หญิงที่อยู่ในบ้านจะมีปัญหาสุขภาพ ถ้าหลังคาครัวรั่วหมายถึงทรัพย์รั่ว ถ้าพื้นครัวมีโพรง ผู้หญิงบ้านนี้จะเจ็บป่วยได้ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ตำแหน่งของเตาไฟ คนจีนเชื่อว่าเตาไฟเป็นตัวแทนของหญิงผู้ให้กำเนิด จึงห้ามตั้งเตาไฟในทิศตรงข้ามกับอ่างล้างจาน หรือไม่ควรตั้งเตาไฟติดกับอ่างล้านจาน และห้ามตั้งเตาไฟโดยใช้ผนังร่วมกับห้องน้ำ เพราะจะทำให้ผู้หญิงในบ้านป่วย แถมโชคลาภก็จะไม่เข้ามาในบ้านด้วย หากมีเตาไฟในบ้านควรใช้บ่อยๆ เพื่อหมุนเวียนพลังหยาง (ความร้อน) ซึ่งจะต้องบาลานซ์กับพลังหยิน (ความเย็น) ของน้ำในบ้านที่มีการเคลื่อนไหวด้วย
ห้องนอนก็สำคัญเช่นกัน
ห้องนอนที่เก็บของเยอะเกินไปจนดูรก ก็เหมือนเป็นการสะสมพลังลบไว้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้น ควรมีของให้น้อยที่สุด ข้อควรระวังอีกอย่าง อย่าให้ประตูห้องน้ำเปิดมาแล้วเจอเตียงเลย เพราะจะทำให้ป่วย สำหรับหัวเตียงไม่จำเป็นต้องหันไปทางทิศตะวันออกเสมอไป ถ้าในห้องนอนมีกระจก ไม่ควรให้กระจกหันหรือสะท้อนมาที่เตียงนอน เพราะจะสะท้อนพลังดีๆ ออกไปหมด และถ้าห้องอยู่ชั้นล่างของบ้าน ห้ามนอนหันปลายเท้าไปทางประตูเข้าตัวบ้าน เพราะจะเหมือนการหามคนเจ็บคนตาย
ฮวงจุ้ยของบ้านที่ดีควรมีองค์ประกอบครบทั้ง 5 ธาตุ ดังนี้
‘ธาตุน้ำ’ ในบ้านควรมีสีฟ้า สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุน้ำ หรือตั้งน้ำพุเล็กๆ ที่มีความเคลื่อนไหว ก็จะช่วยเสริมฮวงจุ้ยที่ดี
‘ธาตุไม้’ ควรหาต้นไม้ประดับเล็กๆ ที่มีใบสีเขียวมาไว้ในบ้าน หรือหากบ้านไหนมีพื้นบ้านที่เป็นพื้นไม้ก็ถือว่าใช้ได้
‘ธาตุไฟ’ สีส้ม สีแดง และสีชมพู คือตัวแทนของธาตุไฟ อาจจะใช้หมอนอิง โคมไฟ หรือสิ่งของอื่นๆ ที่มีสีเหล่านี้มาประดับไว้
‘ธาตุดิน’ อาจเลือกใช้พรมเช็ดเท้าที่มีสีน้ำตาล หรือสิ่งของที่อยู่ในหมวดสีเอิร์ธโทน นำมาตกแต่งในบ้านก็ช่วยเสริมธาตุดินได้
‘ธาตุโลหะ’ อาจเป็นสิ่งของที่ทำจากโลหะทั้งหลาย เช่น โต๊ะที่มีขาสเตนเลส หรือแจกันสีทองแววาวก็ได้เช่นกัน
ถ้าบ้านไหนมีสิ่งของหรือการตกแต่งครบทั้ง 5 ธาตุแล้ว ก็ถือว่าบ้านนั้นมีฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสริมฮวงจุ้ยด้านอื่นๆ ก็ได้