สาวๆ รู้มั้ย? นิสัยผู้ชายส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับคำพูดทื่อๆ ตรงๆ ไม่อ่อนหวาน จนอาจจะทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่เข้าใจ และพาลโกรธเกลียดกันไปเลยก็มี
จากประโยคที่ว่า “ไม่ต้องใช้วิธีพูดอย่างนั้นก็ได้นี่นา” ประโยคนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาเราคุยกับคนอเมริกัน แล้วบอกกับเขาว่า “ไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษก็ได้นี่นา” ก็ภาษาที่ใช้พูดต่างกัน แล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะ
สำหรับผู้ชายแล้ว เวลาได้ยินว่า “ไม่ต้องใช้วิธีพูดอย่างนั้นก็ได้นี่นา” จะทำให้พวกเขาจำได้ถึงความรู้สึกผิด ว่าต้องพูดกับผู้หญิงให้อ่อนโยนขึ้น หรือไม่ก็ต้องพูดจาแบบสุภาพบุรุษ ซึ่งเป็นความ รู้สึกสับสนปนเปกันจนยากจะบรรยายระหว่างความรู้สึกอยากโต้แย้งกับความรู้สึกผิด
ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี ก็เลยกลายเป็น “ก็ช่วยไม่ได้นี่” “ที่ต้องพูดแบบนี้ก็เพราะเธอเองนั่นแหละ”
การสนทนาแบบเผชิญหน้ากัน โต้คารมกันว่า “ควรทำอย่างนี้สิ อย่างนั้นสิ” หรือ “นายน่ะ เสียตรงนี้” เป็นต้น ไม่ค่อยปรากฏในการสนทนาแบบผู้หญิง แต่ผู้ชายด้วยกันมักมีอารมณ์โต้แย้งกันแบบนี้
“ไอ้บ้าเอ๊ย”
“ว่าไงนะไอ้ทึ่ม”
นิสัยการพูดแบบรุกตรงๆ ของผู้ชายนี่เองที่ทำร้ายจิตใจผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันอาจจะเจ็บสัก 100 แต่ถ้าเป็นผู้หญิงจะเจ็บ 1,000 หรือ 10,000 เลยทีเดียว เพราะผู้หญิงจะมีปฏิกิริยาต่อเนื้อหาที่ได้ยิน บวกเข้ากับวิธีการพูดด้วย
สิ่งที่ผู้ชายพึงระมัดระวังก็คือ ต้องเข้าใจว่าผู้หญิงไม่คุ้นเคยกับวิธีการพูดแบบรุกตรงๆ จึงต้องเปลี่ยนวิธีการพูดให้นุ่มนวลยิ่งขึ้น มิฉะนั้นแล้วเรื่องที่คุยกันจะคุยกันไม่รู้เรื่อง กลายเป็น “วิธีพูดของคุณทำร้ายจิตใจฉัน” เรื่องก็จะกลายเป็นคนละทิศละทางไปเลย
ผู้หญิงเองก็ควรจะพูดตรงๆ เลยว่า “วิธีพูดแบบนั้นน่ะ ช่วยพูดให้นุ่มนวลขึ้นหน่อยจะได้มั้ย” หรือ “ฉันฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย ช่วยเปลี่ยนวิธีพูดหน่อยได้มั้ย” ถ้าบอกอย่างนี้แล้ว ผู้ชายคงจะลดความดุเดือดในการพูดลงบ้าง และน่าจะเป็นการสนทนาที่ฟังดูอ่อนโยนขึ้นได้
การที่ผู้ชายมีวิธีพูดที่ตรงไปตรงมา อาจมีเหตุผลมาจากการที่รู้สึกว่าสนิทสนมกับอีกฝ่ายก็เป็นได้ เพราะผู้ชายด้วยกันเอง ถ้าเป็นเพื่อนสนิท ก็จะพูดจากันตรงๆ เช่น
“นายน่ะประหลาดคนจริงๆ เลยว่ะ”
“เฮ้ย ไม่ประหลาดหรอก”
“ไม่จริง นายเพี้ยนไปแล้วละ” เป็นต้น
ซึ่งเบื้องหลังคำพูดเหล่านี้มีเสน่ห์ของมิตรภาพแบบผู้ชาย ประมาณว่า “คนที่จะพูดแบบนี้กับฉันได้ ก็มีแต่นายเท่านั้นแหละ”
ผู้ชายที่ทำงานแล้ว นิสัยใจคอเปลี่ยนไป เมื่อมาเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนด้วยกัน อาจมีบทสนทนาแบบนี้ “วิธีของนายน่ะ ประหลาด!” พอได้ยิน อีกฝ่ายก็ตอบกลับว่า “ว่าไงนะ นายนี่ชักจะวอน…” แล้วก็เริ่มประเคนหมัดเข้าใส่กัน หลังจากนั้น…
“สมัยเป็นนักเรียน เราก็เป็นแบบนี้นะ เอ้า! มาดื่มรำลึกถึงความหลังตอนนั้นสักแก้วมั้ย”
“จริงสินะ ตัวฉันเองก็เปลี่ยนไปนะ มีแต่นายเท่านั้นแหละที่กล้าพูดกับฉับแบบนั้น”
แล้วทั้งสองคนก็ชนแก้วกัน
สำหรับผู้หญิง ส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจสถานการณ์แบบนี้ ฉะนั้นถ้าทำความเข้าใจด้านจิตวิทยาของผู้ชายที่พูดกันแบบนี้สักนิด ก็จะรับมือกับพวกเขาได้ง่ายขึ้น
แต่ที่น่ากลัวคือ ตอนที่ผู้ชายใช้คำสุภาพหรือระมัดระวังในการใช้คำพูดอย่างมากต่างหาก เวลาที่ผู้ชายคิดจริงจังกับอีกฝ่ายจะพูดออกมาว่า “เธอน่ะเพี้ยนไปแล้วละ” แต่ถ้าเขาคิดว่ายายคนนี้ไม่ได้เรื่องเลย คงจะเลิกคบเร็วๆ นี้แหละ ก็จะใช้วิธีพูดว่า “ก็ไม่ได้มีอะไรนี่” หรือ “เออ เอาเถอะ ทำตามที่เธอชอบละกัน” หรือ “เอาละ เอาละ รู้แล้ว”
ผู้หญิงอาจจะคิดว่านี่คือคำพูดแบบอ่อนโยนก็เป็นได้ แต่สำหรับผู้ชายแล้ว ณ จุดนี้เองที่เป็น “จุดจบกันเสียที” ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากเสียด้วย ดังนั้น วิธีพูดแบบตรงๆ ชัดๆ ของผู้ชายอาจจะมีดอกไม้ซ่อนอยู่ก็ได้
ผู้ชายทั้งหลายควรมีวิธีพูดที่อ่อนโยนขึ้น ส่วนผู้หญิงก็ควรเข้าใจจิตใจของผู้ชายมากขึ้นอีกสักนิด แล้วค่อยก้าวไปด้วยกันทีละเล็กละน้อย แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็จะราบรื่นขึ้น