Tuesday 23 April 2024 | 9 : 49 pm

ถั่วลูปิน ซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคต

“ลูปิน” พืชตระกูลถั่วจากออสเตรเลีย กำลังจะกลายเป็นซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคต ด้วยคุณประโยชน์มากมายด้านโภชนาการทั้งปริมาณโปรตีน ไฟเบอร์ที่สูงมาก แต่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ ไม่มีกลูเตน และที่สำคัญ คือ มาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรมใดๆ

ชื่อ “ลูปิน” อาจจะยังไม่คุ้นหูคนไทย แต่จริงๆ แล้ว ลูปินเป็นพืชตระกูลถั่วที่คนในแถบเมดิเตอเรเนียน และเทือกเขาแอนดีสในอเมริกาใต้กินกันเป็นประจำมาตั้งแต่โบราณ แต่พันธุ์ดั้งเดิมนั้นจะออกรสขมเพราะมีสารอัลคาลอยด์ ก่อนจะรับประทานต้องมีกรรมวิธีกำจัดรสขมเสียก่อน เช่น แช่ในน้ำเกลือ หรือปรุงให้สุก จึงต้องใช้เวลามากในการเตรียมก่อนนำมารับประทาน แต่ในปัจจุบัน มีการปรับปรุงพันธุ์ให้ดีขึ้นจนไม่มีรสขม สามารถรับประทานได้เลยไม่ต้องแช่น้ำเป็นเวลาหลายชั่วโมงอย่างแต่ก่อน  

นอกจากจะเป็นซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคตเพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างแล้ว ลูปินยังช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ในดิน เนื่องจากเป็นพืชตระกูลถั่วที่ช่วยลดสารคาร์บอนพร้อมกับเพิ่มไนโตรเจน คืนความอุดมให้กับดินในแปลงเกษตร

งานวิจัยอย่างน้อย 2 ชิ้นของ ดร.วีรยา การพานิช นักวิจัยด้านโภชนาการของไทย มีผลสอดคล้องกับผลงานวิจัยมากมายทั่วโลกว่า ถั่วลูปินมีความโดดเด่นด้วยคุณค่าทางอาหารและดีต่อสุขภาพเพราะมีโปรตีนและไฟเบอร์สูง แต่มีไขมันต่ำ นอกจากนี้ยังมีปริมาณโอลิโกแซคคาไรด์สูง ซึ่งโอลิโกแซคคาไรด์เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติกหรืออาหารชั้นดีของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเรา ช่วยให้ระบบการย่อยและดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เมื่อเทียบกันแล้ว ถั่วลูปินยังมีปริมาณคุณค่าทางโภชนาการสูงไปกว่าธัญพืชหลายชนิดที่เราเรียกว่าซูเปอร์ฟู้ดเสียอีก เช่น ในถั่วลูปินแต่ละเมล็ดมีปริมาณโปรตีนถึง 40% หรือมากกว่าควินัวถึง 3 เท่า จึงเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่มีคุณค่าสูง เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหรือกำลังเติบโต รวมทั้งมีกากใยหรือไฟเบอร์ 37% มากกว่าข้าวโอ๊ตถึง 3 เท่าเช่นกัน กากใยเหล่านี้เป็นพรีไบโอติกด้วย

นอกจากนี้ ถั่วลูปินยังมีดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index–GI) ต่ำที่สุดในบรรดาธัญพืชต่างๆ ที่เรารับประทานกันอยู่ จึงเหมาะกับคนที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น คนที่เป็นเบาหวาน หรือมีแนวโน้มจะเป็นเบาหวาน หรือคนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงแต่ยังไม่ทันเป็นเบาหวาน เพราะถั่วลูปินจะค่อยๆ ปล่อยน้ำตาลออกมาทีละน้อยไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ดเหมือนอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ

สำหรับคนที่แพ้กลูเตน ถั่วลูปินเป็นพืชที่ไร้กลูเตนโดยธรรมชาติ คนที่แพ้กลูเตนหรือเป็นโรคเซลิแอค (Celiac) จึงรับประทานได้อย่างปลอดภัย

ถ้าจะดูในเรื่องของแร่ธาตุหรือวิตามิน ถั่วลูปินก็ไม่น้อยหน้า เพราะมีธาตุเหล็กมากกว่าเคล หรือคะน้าใบหยัก มีโพแทสเซียมมากกว่าในกล้วย และมีแมกนีเซียมสูงกว่าผักโขมอีกด้วย

ด้วยคุณค่าและประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้ ถั่วลูปินจึงได้รับความสนใจจากนักโภชนาการและผู้บริโภค รวมถึงกลายเป็นเป็นทางเลือกใหม่ที่สำหรับคนที่ไม่นิยมรับประทานเนื้อสัตว์หรือต้องการโปรตีนทางเลือกคุณภาพสูงแต่ราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ หรือกำลังสนใจอาหารที่ทำจากพืช หรือ แพลนท์เบส (Plant based) และกำลังมองหาทางเลือกซูเปอร์ฟู้ดใหม่ที่ให้คุณค่าสูงและอิ่มทน

สุวพักตร์ กัลยาณสันต์ Business Development Director บริษัท ไทย-ดับบลิวเอ ลูปิน โปรดักท์ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจไทยและออสเตรเลียตะวันตก และเป็นผู้ผลิต PINARIE SNACKS Lupin Chips (พินนารี่ สแนค ลูปิน ชิปส์) ขนมขบเคี้ยวจากถั่วลูปินในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทนำเข้าลูปินจากรัฐออสเตรเลียตะวันตก ซึ่งเป็นแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่ 80% ของถั่วลูปินที่คนทั่วโลกรับประทานมาจากออสเตรเลียตะวันตกทั้งนั้น

“เรานำเข้าลูปิน เพราะเห็นถึงศักยภาพของถั่วลูปินทั้งในด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ เพราะเป็นซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคต มีประโยชน์ทางโภชนาการและสุขภาพของผู้บริโภค  เรานำมากะเทาะเปลือกที่เมืองไทย ก่อนจะแปรรูปเป็นถั่วเต็มเมล็ด ผ่าซีก บดหยาบ และแป้ง สำหรับใช้ทำอาหารได้หลายรูปแบบ ทั้งเบเกอรี่ ขนม อาหารหลากหลายชนิด ซึ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับคนจำนวนมากด้วย” สุวพักตร์ กล่าว

บริษัทฯ ได้เปิดตัวครั้งแรกในงาน THAIFEX 2019 และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องมาตลอดจนกระทั่งเกิด “PINARIE SNACKS Lupin Chips” ขนมอบกรอบจากถั่วลูปินและข้าวหอมมะลิที่ขึ้นชื่อของไทย

“ขนมขบเคี้ยวเป็นสิ่งที่คนทุกประเทศชื่นชอบ แต่ขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่มักอุดมไปด้วยแป้ง โซเดียม ไขมัน ซึ่งจะมีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ในปัจจุบัน กระแสรักสุขภาพทำให้ผู้บริโภคมองหาขนมทางเลือกใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ เราจึงได้คิดค้น PINARIE  ขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้คนทุกเพศทุกวัย ให้สามารถมีความสุขกับการรับประทานขนมขบเคี้ยวได้โดยไม่รู้สึกผิด เพราะได้คุณค่าทางโภชนาการ ดีต่อสุขภาพไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตแอคทีฟ คนที่ใส่ใจสุขภาพ หรือแม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ที่เลือกสรรอาหารและขนมที่ดีต่อสุขภาพของลูกหลาน” สุวพักตร์กล่าว

PINARIE SNACKS Lupin Chips มี 4 รสชาติ ได้แก่ Sea Salt, Seasalt & Vinegar, Onion and Chives และ Sweet Chili and Lime วางจำหน่ายในขนาด 90 กรัมราคาซองละ 95 บาทที่ร้านเลมอนฟาร์ม และขนาด 50 กรัมราคาซองละ55 บาท สั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ shoppee และ Lazada

ส่วนถั่วลูปินในแบบเต็มเมล็ด ผ่าซีก บดหยาบ และแป้ง สำหรับปรุงอาหารหรือทำขนม เหมาะสำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์อาหารหรือขนมที่มีเอกลักษณ์ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ หรือคนที่ชอบทำอาหาร

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ www.pinariefoods.com หรือhttps://www.facebook.com/pinariesnacksthailand/ และ https://www.instagram.com/pinariesnacks_thailand/

สำนักงานสลากฯ เปิดตัว โครงการ SEED PROJECT ปี 4 ‘สร้างผู้นำเยาวชน พาท้องถิ่นสู่สากล’

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ จีแอลโอ เดิน...