Galderma ผู้นำด้านเวชสำอางระดับโลก กับการพัฒนา Sculptra นวัตกรรมฟื้นฟูผิวลึกถึงคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการย้อนวัยผิวอย่างเป็นธรรมชาติ รู้จักเทคโนโลยี Sculptra จาก Galderma ที่ตอบโจทย์การดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์ยาวนาน โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์แบบเดิมๆ
Galderma ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามระดับโลก กับ Sculptra ฟิลเลอร์กระตุ้นคอลลาเจนจากภายใน
เมื่อพูดถึงเวชสำอางระดับโลกที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ผิวหนังและผู้เชี่ยวชาญด้านความงามทั่วโลก หนึ่งในชื่อที่โดดเด่นไม่แพ้ใครคือ Galderma แบรนด์ที่ถือกำเนิดจากความตั้งใจที่จะเข้าใจผิวอย่างลึกซึ้งและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และตรงจุดกับทุกปัญหาผิว ล่าสุด Galderma ได้พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เรียกเสียงฮือฮาอย่าง Sculptra ซึ่งถือเป็นก้าวล้ำในวงการเวชศาสตร์ความงาม โดยเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกายให้กลับมาทำงานอีกครั้ง ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงแน่นกระชับในระยะยาวอย่างเป็นธรรมชาติ

Sculptra จาก Galderma คืออะไร ทำไมถึงแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป
Sculptra เป็นชื่อทางการค้าของสารที่เรียกว่า Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งในสหรัฐอเมริกาและในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยจุดเด่นของ Sculptra คือความสามารถในการ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ในชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่เน้นการเติมเต็มเพียงชั่วคราว สิ่งที่ทำให้ Sculptra โดดเด่นและได้รับความนิยมจากแพทย์ผิวหนังและผู้ใช้งานในระดับพรีเมียมก็คือ ผลลัพธ์ที่ ดูเป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนทันที แต่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลา 6-12 สัปดาห์หลังการฉีด และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง2 ปีหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ Sculptra ยังไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่เติมใต้ผิวในลักษณะเป็น “ปริมาตร” อย่างที่เราคุ้นเคยกัน แต่เป็นการทำงานในรูปแบบ biostimulator คือกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง จึงทำให้โครงสร้างผิวแน่นกระชับขึ้นจากภายใน
ทำไม Sculptra จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการย้อนวัยผิวอย่างยั่งยืน
การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวดูแก่ลงเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งคอลลาเจนจะลดลงเรื่อยๆ ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป และลดลงถึง 1-1.5% ต่อปี Galderma จึงพัฒนา Sculptra ขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูระดับคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์จากการใช้ Sculptra ไม่ได้แค่เติมเต็มร่องลึกหรือแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุด แต่ช่วยให้โครงสร้างผิวโดยรวมดีขึ้น เช่น
· ผิวแน่นและเต่งตึงขึ้น
· รูปหน้าแลดูยกกระชับ
· สีผิวดูสม่ำเสมอ
· ริ้วรอยตื้นขึ้น
· หน้าไม่โทรมแม้ไม่ได้แต่งหน้า
ข้อดีอีกอย่างของ Sculptra คือให้ผลลัพธ์ที่เป็น Long-term natural rejuvenation ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการเปลี่ยนใบหน้าแบบทันทีเหมือนกับการใช้ฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ แต่ต้องการความเปลี่ยนแปลงที่เป็นธรรมชาติ และไม่หลอกตาแม้ระยะเวลาผ่านไป
ความปลอดภัยและการพัฒนาของ Galderma ที่การันตีคุณภาพ
Galderma ไม่ใช่แค่บริษัทเวชสำอางทั่วไป แต่เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ การวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเวชศาสตร์ความงามที่มุ่งเน้นการดูแลรักษาผิวแบบองค์รวม ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี Galderma ได้ลงทุนในด้านการศึกษาทางคลินิกและการทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทุกตัวอย่างเคร่งครัด จึงทำให้ Sculptra ผ่านการรับรองจากสถาบันระดับโลก ทั้งด้านความปลอดภัย ความเสถียรของตัวยา และประสิทธิภาพในระยะยาว นอกจากนี้ Galderma ยังให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมแพทย์ผิวหนังและผู้เชี่ยวชาญที่นำ Sculptra ไปใช้ ต้องผ่านการอบรมเทคนิคเฉพาะและมีความเข้าใจในชั้นผิวอย่างลึกซึ้ง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ที่เข้ารับการฉีด

Sculptra เหมาะกับใคร และควรเริ่มต้นเมื่อไร
Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มสังเกตเห็นปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก ผิวไม่กระชับ หรือใบหน้าเริ่มโทรมแม้พักผ่อนเต็มที่ โดยเฉพาะคนวัย 30–60 ปี ที่ต้องการฟื้นฟูผิวในเชิงลึกแบบไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์แบบชั่วคราว นอกจากนี้ Sculptra ยังเหมาะกับผู้ที่มีโครงหน้าเรียวอยู่แล้วแต่ต้องการความเต่งตึงมากขึ้น หรือผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์และอยากเปลี่ยนแนวทางการดูแลผิวให้ยั่งยืนกว่าเดิม สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้ Sculptra ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินความเหมาะสม และวางแผนจำนวนครั้งในการฉีด (มักอยู่ที่ 2–3 ครั้ง ห่างกันทุก 4–6 สัปดาห์) เพื่อให้ร่างกายมีเวลาสร้างคอลลาเจนอย่างเป็นธรรมชาติ
ความคุ้มค่าในระยะยาว และผลลัพธ์ที่คุณจะสัมผัสได้
แม้ราคาการฉีด Sculptra จะดูสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปในบางกรณี แต่เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี และการฟื้นฟูที่เป็นธรรมชาติจากภายใน ก็ถือว่า คุ้มค่าและประหยัดในระยะยาว นอกจากนี้ เมื่อคอลลาเจนในชั้นผิวเพิ่มขึ้น โครงสร้างผิวที่ดีขึ้นจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของสกินแคร์ที่คุณใช้ในชีวิตประจำวัน ลดความจำเป็นในการพึ่งเครื่องสำอางหรือหัตถการอื่นๆ ไปได้มาก หลายคนที่เคยลอง Sculptra ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใบหน้าดูสดใสขึ้น รูปหน้าดูยกกระชับแบบไม่ผิดสังเกต และคนรอบข้างทักว่า “ไปทำอะไรมาหน้าดูสดขึ้น” แบบที่ไม่รู้ว่าไปฉีดอะไรมา ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ Sculptra ตั้งใจให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก
สรุป Sculptra จาก Galderma คือก้าวใหม่ของการดูแลผิวอย่างลึกซึ้งและยั่งยืน
ในยุคที่คนหันมาใส่ใจความเป็นธรรมชาติของใบหน้า มากกว่าการเปลี่ยนแปลงแบบทันใจ Sculptra จาก Galderma จึงกลายเป็นคำตอบสำหรับคนที่มองหาการฟื้นฟูผิวอย่างแท้จริง โดยใช้กลไกของร่างกายตัวเองในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ด้วยความปลอดภัยที่ผ่านการรับรองทางการแพทย์ ประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้จากงานวิจัย และผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า 2 ปี Sculptra จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่ากำลังดูแลตัวเองอยู่ Galderma ในฐานะแบรนด์ผู้นำระดับโลกที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนา Sculptra ยังคงเดินหน้าวิจัยและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านเวชศาสตร์ความงามอย่างต่อเนื่อง และยังยืนหนึ่งในเรื่องของ “ความเข้าใจผิวอย่างลึกซึ้ง” ที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลผิวในยุคปัจจุบัน