สมาคมนักศึกษาเก่าคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับกลุ่มศิลปินและผู้สร้างภาพยนตร์อิสระจากประเทศอิตาลี เปิดตัวโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ดอคคูดรามา ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ (The Empire of Harmony) ผลงานการกำกับฯ โดย มาร์โค แกตติ (Marco Gatti) ชาวอิตาเลียน ถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ศิลปะอันลึกซึ้งระหว่างไทยและอิตาลี จากจุดเริ่มต้นของศิลปะสมัยใหม่ในสยามสู่ความหลากหลายของศิลปะร่วมสมัยของไทยในปัจจุบัน

‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ ภาพยนตร์แนวสารคดีผสมดรามา (Docudrama) เล่าเรื่องราวผ่าน ‘ฝ้าย’ สาวลูกครึ่งไทย-อิตาลี ที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อค้นหาความเชื่อมโยงของมรดกทางวัฒนธรรม ที่ถักทออย่างกลมเกลียวระหว่างสยามเก่า ไทยใหม่ และโลกตะวันตกเข้าด้วยกัน เรื่องราวการเดินทางของฝ้ายจะนำพาผู้ชมย้อนรอยสู่จุดเริ่มต้นของศิลปะสมัยใหม่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งที่ ‘แกลิเลโอ คินี’ (Galileo Chini) จิตรกรชาวอิตาลี ได้รับเชิญมาสร้างสรรค์จิตรกรรมบนเพดานโดมพระที่นั่งอนันตสมาคม รวมถึงชักชวน ‘ศาสตราจารย์คอร์ราโด เฟโรชี’ (Corrado Feroci) ประติมากรผู้เดินทางมารับราชการในสยาม ผู้กลายเป็น “บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย” ในเวลาต่อมา
ภาพยนตร์จะผสมผสานเรื่องราวในอดีตของบุคคลสำคัญอย่าง ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ศิลปินเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เข้ากับเรื่องราวของศิลปินและแวดวงศิลปะร่วมสมัยไทยในปัจจุบัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสืบสานและต่อยอดองค์ความรู้ทางศิลปะหลากหลายแขนง ตั้งแต่การสร้างอนุสาวรีย์แห่งชาติ สร้างวัดและวังแนวใหม่ การก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปะแห่งแรกของไทย ตลอดจนผลักดันศิลปะร่วมสมัยไทยสู่ระดับนานาชาติในปัจจุบัน

แรงบันดาลใจจากบทเพลงสู่ ‘The Empire of Harmony’
ที่มาของชื่อภาพยนตร์ ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ ได้รับแรงบันดาลใจจากเนื้อร้องท่อนหนึ่งในเพลง Santa Lucia เพลงพื้นเมืองเมืองนาโปลี ที่ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี โปรดปรานและมักจะขับร้องระหว่างทำงานศิลปะ ซึ่งต่อมาได้ดัดแปลงเป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อรำลึกถึงคุณูปการอันใหญ่หลวงของท่าน ในเรื่องนี้ ธราธิป นัทธีศรี นายกสมาคมนักศึกษาเก่าคณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวถึงที่มาและเป้าหมายของโครงการในครั้งนี้ว่า
“แรงบันดาลใจของโครงการนี้ เกิดจากความมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่คุณค่าของศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยของไทย ผ่านเรื่องราวความร่วมมืออันยิ่งใหญ่ระหว่างศิลปินไทยและอิตาลี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และ 6 นำเสนอในรูปแบบ Docudrama เพื่อถ่ายทอดประวัติศาสตร์ให้มีชีวิตชีวา สอดแทรกมิติทางอารมณ์ที่ทำให้ผู้ชมโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ สามารถเข้าถึงและเชื่อมโยงกับเรื่องราวได้ง่ายขึ้น เราคาดหวังว่า ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ จะเป็นสะพานเชื่อมคนรุ่นใหม่กับรากฐานทางศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นคุณค่าของการเปิดใจกว้าง การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และกล้าที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เหมือนดังที่ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้ทุ่มเทสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งไว้ให้กับประเทศไทย”

อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว: บทบาทของคนไทยในโปรเจกต์ระดับสากล
โครงการนี้กำกับและวางแนวความคิดโดย มาร์โค แกตติ ผู้กำกับชาวอิตาลี เป็นการต่อยอดเรื่องราวของตัวละคร ‘ฝ้าย’ จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Me and the Magic Door’ (พ.ศ. 2565) ที่เล่าเรื่องราวการค้นพบสถาปัตยกรรมอิตาเลียนในแดนสยาม โดยในภาพยนตร์ ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ ฝ้ายได้เจาะลึกลงไปในรากของศิลปะและวัฒนธรรม ที่เชื่อมโยงสองแผ่นดินเข้าไว้ด้วยกัน อาจารย์ อมฤทธิ์ ชูสุวรรณ ศิลปินแห่งชาติปี 2563 สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม-สื่อผสม) ในฐานะ Co-Executive Producer ของภาพยนตร์เรื่องนี้ เล่าถึงบทบาทของคนไทยในโปรเจกต์ระดับสากลนี้ว่า
“ภาพยนตร์ดอคคูดราม่าเรื่องนี้ เป็นผลงานที่สร้างโดยทีมงานชาวอิตาเลียนเป็นหลัก โดยมีเพื่อนคนไทยคอยให้ข้อมูลและหารือร่วมกันมาโดยตลอด แม้ส่วนหนึ่งจะถ่ายทำเสร็จไปแล้วในอิตาลี แต่ส่วนที่เหลือซึ่งต้องถ่ายทำในประเทศไทย ยังต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากทีมงานในไทย เราพยายามดึงคนที่มีประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ทั้งนักออกแบบเสื้อผ้า (Costume Designer) หรือฝ่ายศิลป์ (Art Director) เพื่อประสานการทำงานร่วมกับทีมงานอิตาเลียนอย่างใกล้ชิด โชคดีที่เรามีพี่ ๆ น้อง ๆ ที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วยเหลือ รวมถึงทีมงานชาวอิตาเลียนที่มีความใกล้ชิดกับสายตระกูลของศิลปิน ควบคู่กับการสืบค้นข้อมูลของศิลปินเมื่อครั้งอยู่ในอิตาลีได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งสามารถนำมาผสมผสานกันเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุดครับ”

โอกาสของภาพยนตร์ดอคคูดรามา ในยุคสตรีมมิงครองใจผู้ชม
นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับฯ ชื่อดัง ในฐานะ Production Supervisor ของภาพยนตร์ดอคคูดราม่าเรื่อง ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ กล่าวถึงบทบาทของเขาในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในส่วนของสตูดิโอ ค่ายหนัง และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เพื่อให้โปรเจกต์นี้ไปได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งยังเป็นการเชิดชูศิลปินและศิลปะไทยไปพร้อมกัน
“โปรเจกต์นี้ทั้งน่าสนใจและมีความสำคัญมากครับ เพราะเรื่องราวของศิลปะและศิลปินไทยไม่ค่อยได้รับการพูดถึงในวงกว้าง แม้ว่าศิลปินไทยหลายท่านจะได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมานานแล้ว ดังนั้น การสร้างภาพยนตร์ดอคคูดรามาจะช่วยเผยแพร่เรื่องราวเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สมาคมศิษย์เก่าคณะจิตรกรรมฯ พร้อมสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่ บวกกับความน่าสนใจของเนื้อหา ผมจึงยินดีที่จะเข้ามาช่วยผลักดันโปรเจกต์นี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ไกลที่สุด เพราะสารคดีและภาพยนตร์นอกกระแสกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น คนดูเปิดใจยอมรับและเสพงานประเภทนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ ที่จะเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทางสตรีมมิ่งและ OTT (Over-the-Top) ซึ่งเป็นช่องทางการเผยแพร่ที่สำคัญในยุคนี้ครับ”

วรรณศักดิ์ ศิริหล้า: จากละครเวทีในอิตาลีสู่ภาพยนตร์แห่งความภูมิใจ
วรรณศักดิ์ ศิริหล้า หรือ ‘กั๊ก’ ชื่อนี้อาจคุ้นหูในฐานะนักแสดงละครเวทีมากฝีมือ ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในระดับสากล เจ้าของรางวัลศิลปินศิลปาธรในสาขาศิลปะการแสดงปี 2563 เป็นหนึ่งในนักแสดงรับเชิญของภาพยนตร์เรื่องนี้ บทบาทของเขามีความพิเศษอย่างมาก นอกจากจะได้ร่วมแสดงในฐานะคนไทยในอิตาลี ภาพยนตร์ยังได้นำเอาส่วนหนึ่งของการแสดงละครเวทีเรื่อง “Chini and Turandot” ที่เขาแสดงในอิตาลีเมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน มาสอดแทรก (insert) ไว้ในเนื้อหาของภาพยนตร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับฯ มาร์โค แกตติ



“รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจมากครับ ไม่คิดเลยว่า การแสดงละครเวทีครั้งนั้นจะทำให้เราได้รู้จักกับคุณมาร์โคและคุณเปาล่า คินี (ทายาทของกาลิเลโอ คินี) ตอนที่ทีมงานมาบอกว่าจะนำส่วนหนึ่งของการแสดงไปใช้ในภาพยนตร์ด้วย เรารู้สึกดีใจมากครับ เพราะการได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกาลิเลโอ คินี ซึ่งเป็นผู้ออกแบบฉากการแสดงโอเปร่าเรื่อง ‘Turandot’ ของจาโคโม ปุชชินี ทำให้เรารู้สึกอินเป็นทุนอยู่แล้ว บวกกับเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ทำให้เราซาบซึ้งมากขึ้น เหมือนเราได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่อยากให้คนไทยทุกคนได้ชม โดยเฉพาะน้อง ๆ คนรุ่นใหม่ที่กำลังเรียนด้านศิลปะทุกสาขา ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณเข้าใจถึงรากเหง้าของประวัติศาสตร์ศิลปะสมัยใหม่ไทย โดยเฉพาะอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่ท่านมีคุณูปการต่อวงการศิลปะไทยอย่างมาก ท่านเป็นมากกว่าผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร ด้วยความที่ท่านรักเมืองไทย และท่านทำให้คนไทยได้พัฒนา ต่อยอด และแสดงศักยภาพที่เรามีให้คนทั่วโลกได้รับรู้มาจนถึงทุกวันนี้”


นอกจากนี้ สมาคมนักศึกษาเก่าคณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร ยังจัดแสดงและจำหน่ายผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินรับเชิญ 30 คน อาทิ อินสนธิ์ วงค์สาม, อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ, สมวงศ์ ทัพพรัตน์, สมภพ บุตราช, ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี, จิตต์สิงห์ สมบุญ, เริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล, ประสงค์ ลือเมือง, วิจิตร อภิชาติเกรียงไกร, ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ, วัชระ ประยูรคำ, ชลิต นาคพะวัน, ฉลอง บุญจันทึก, สิทธิชัย ปรัชญารัตติกุล, สุธี คุณาวิชยานนท์, นพพีระ โบศรี, พรชัย ใจมา, ไพโรจน์ วังบอน, ประสิทธิ์ วิชายะ, ศักชัย อุทธิโท ฯลฯ รายได้ทั้งหมดนำไปมอบให้กับการถ่ายทำภาพยนตร์ดอคคูดรามา ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ ให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อเป็นการคาราวะต่อศิลปินบรมครู และเฉลิมฉลองคุณค่าของงานศิลปวัฒนธรรมไทยที่มั่งคั่งและลุ่มลึก ผู้สนใจสามารถรับชมตัวอย่าง (Teaser) ดอคคูดรามา ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ (The Empire of Harmony)
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่: สมาคมนักศึกษาเก่าคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร