บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) คลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน นำโดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) สานต่อความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับทุกคน ด้วยการจัดงาน “Wellness for Ramadan: ศาสตร์แห่ง Wellness กับรอมฎอน ความสมดุลแห่งศรัทธาและสุขภาพ” เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการดูแลสุขภาพและเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับชาวมุสลิมตลอดเดือนรอมฎอน โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ฯพณฯ อรุณ บุญชม หรือมุฮัมมัดญะลาลุดดีน บิน ฮูเซ็น จุฬาราชมนตรีท่านที่ 19 แห่งราชอาณาจักรไทย และแพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเข้าร่วมงาน
แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริหาร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารอาวุโส กลุ่ม 1 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “BDMS Wellness Clinic ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาวะที่ดีสำหรับเพื่อน ๆ ชาวมุสลิมในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ดังนั้น เราจึงได้จัดงานเสวนา ‘Wellness for Ramadan’ ขึ้น เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ ศาสตร์แห่ง Wellness ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ ทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลแห่งสุขภาพและความสุขในช่วงเดือนรอมฎอน เพื่อให้ทุกคนสามารถมีสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจในช่วงเวลานี้”
เดือนรอมฎอน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในศาสนาอิสลาม เนื่องจากเป็นเดือนที่พระคัมภีร์อัลกุรอานอันศักดิ์สิทธิ์ถูกประทานลงมายังศาสดามูฮัมมัด ด้วยเหตุนี้ การถือศีลอดจึงกลายเป็นหนึ่งในศาสนกิจสำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลก เพื่อแสดงถึงความศรัทธาและการปฏิบัติตามคำสอนแห่งพระผู้เป็นเจ้า นอกจากมิติทางศาสนา รอมฎอนยังเป็นช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนจิตใจ เสริมสร้างความอดทน และการควบคุมตนเอง ผ่านการละเว้นจากอาหารและน้ำตั้งแต่รุ่งอรุณ จนถึงดวงอาทิตย์ตก นอกเหนือจากการเป็นศาสนกิจ การถือศีลอดยังมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพ โดยช่วยให้ร่างกายได้พักฟื้น กระตุ้นกระบวนการชำระล้างร่างกาย และปรับสมดุล สุขภาวะโดยรวม
![](https://lifediary.net/wp-content/uploads/2025/02/IMG_9192-1024x782.jpg)
นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ หรือคุณหมอแอมป์ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การถือศีลอดในช่วงรอมฎอนไม่เพียงเป็นศาสนกิจที่สำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลก แต่หากพูดในเชิงการแพทย์ การถือศีลอดยังมีความสอดคล้องกับแนวทางการดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่าง Intermittent Fasting (IF) ซึ่งเป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่จำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร ช่วยส่งเสริมวินัยด้านการรับประทานอาหารให้กับเราทุกคนให้รับประทานอาหารได้อย่างเป็นเวลามากขึ้น โดยนอกจากช่วยลดการรับประทานอาหารจุกจิกเกินความจำเป็นแล้ว ยังส่งผลดีต่อร่างกายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ช่วยในการลดน้ำหนัก ช่วยในการลดการอักเสบในร่างกาย และส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน”
อย่างไรก็ตาม การสร้างสมดุลระหว่างการอดอาหารและการรับประทานอาหาร เป็นสิ่งสำคัญที่ชาวมุสลิมทุกท่านควรให้ความสำคัญในระหว่างถือศีลอด เพื่อให้ร่างกายยังคงแข็งแรง และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข นายแพทย์ตนุพล ได้แบ่งปันถึงคำแนะนำในการรับประทานอาหารในช่วง ซูโฮร์ (Suhoor) และ อิฟตาร์ (Iftar) ภายใต้ศาสตร์แห่ง Wellness ไว้ดังนี้
ซูโฮร์ (Suhoor) ช่วงเวลาสำคัญ เพื่อบูสต์พลังให้ร่างกาย
ซูโฮร์คือมื้ออาหารที่ชาวมุสลิมรับประทานในระหว่างก่อนพระอาทิตย์ขึ้น หรือตอนช่วงเวลา 4:00 – 4:30 น. ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของวัน เนื่องจากเป็นมื้ออาหารมื้อแรกก่อนที่ชาวมุสลิมจะไปใช้ชีวิตประจำวันและทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน การรับประทานอาหารในมื้อซูโฮร์จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาวมุสลิมที่กำลังถือศีลอด ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
- เลือกรับประทานอาหารที่ให้พลังงานอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง เช่น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน โปรตีน และไขมันดี เป็นแหล่งอาหารที่ให้พลังงานอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ สำหรับทำกิจกรรมได้อย่างราบรื่นตลอดทั้งวัน
- รับประทานอาหารอย่างสมดุล ใช้หลักการ แบ่งจานอาหารเป็น 4 ส่วน โดย 50% เป็นผักหลากหลายชนิด อีก 25 % เป็นโปรตีนที่ดี เช่น ปลา ถั่วและธัญพืช ส่วนที่เหลืออีก 25 % เป็นข้าวแป้งไม่ขัดสี อย่างเช่น ข้าวกล้อง เพื่อช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระหว่างถือศีลอด
- รับประทานอาหาร Plant-based เป็นหลัก เน้นการรับประทานผักผลไม้และธัญพืชหลากหลายชนิด ในพืชต่างๆ อุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยส่งเสริมระบบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากในระหว่างวัน ชาวมุสลิมจะต้องงดรับประทานอาหารและดื่มน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอในช่วงซูโฮร์ จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้ร่างกายไม่ต้องเผชิญกับภาวะขาดน้ำในระหว่างวัน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เนื่องจากคาเฟอีนเป็นสารที่กระตุ้นการขับน้ำออกจากร่างกาย การหลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีนในช่วงรอมฎอน จึงช่วยให้ร่างกายห่างไกลจากภาวะขาดน้ำได้มากยิ่งขึ้น
อิฟตาร์ (Iftar) ฟื้นฟูกายและใจ ด้วยอาหารที่มีประโยชน์
อิฟตาร์คือมื้ออาหารที่ชาวมุสลิมรับประทานเพื่อละศีลอด หลังจากพระอาทิตย์ตกดินในช่วงเดือนรอมฎอน โดยจะเป็นช่วงที่ชาวมุสลิมได้เติมเต็มสารอาหารให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูจากการอดอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารในช่วงอิฟตาร์อย่างสมดุล ไม่เพียงช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว โดยมีคำแนะนำดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมากเกินความจำเป็น ในช่วงระหว่างการถือศีลอด หลายท่านอาจรู้สึกหิวมาก เนื่องจากงดอาหารมาตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เกิดการรับประทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย ดังนั้น เพื่อสร้างสมดุลให้กับร่างกาย เราทุกคนจึงควรรับประทานอาหารแต่พอดี โดยเริ่มมื้ออาหารด้วยการรับประทานอาหารเบา ๆ อย่างเช่น ซุป หรือ อินทผาลัม เป็นต้น
- จำกัดการรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนก่อให้เกิดอันตรายต่อภาวะสุขภาพได้ นอกจากนี้ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงยังรบกวนการนอนหลับ จึงอาจทำให้เกิดการพักผ่อนไม่เพียงพอได้เช่นเดียวกัน
- เลือกรับประทานอาหารจำพวก อบ หรือต้ม แทนอาหารจำพวกทอด อาหารไขมันต่ำช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องอืดและภาวะกรดไหลย้อน
- รับประทานอาหารอย่างช้าๆ ค่อยๆ เคี้ยวอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักจนเกินไป มีเวลาในการย่อยและดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงการนอนทันทีหลังมื้ออาหาร ควรเว้นระยะประมาณ 3 ชั่วโมงจากมื้ออาหารก่อนที่จะเข้านอน
- เดินหลังจากรับประทานอาหาร จะช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และยังช่วยส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้นได้
“งานเสวนา ‘Wellness for Ramadan’ จัดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะส่งเสริมสุขภาวะที่ดีให้กับพี่น้องชาวมุสลิมในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ เราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ภายใต้ศาสตร์แห่ง Wellness ที่ช่วยให้ทุกท่านสามารถรักษาสมดุลของสุขภาพ พร้อมเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ในระหว่างการถือศีลอด เราหวังว่างานเสวนานี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนที่ช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดีและสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างสมบูรณ์ตลอดเดือนรอมฎอน” นายแพทย์ตนุพล กล่าวทิ้งท้าย