เปิดประสบการณ์ใหม่ของอาหารไทยมาตรฐานระดับโลก “รอยัล โอชา” (Royal Osha) ร้านอาหาร Luxury Thai Fine Dining ชั้นนำของไทย ได้รับการันตีความอร่อยด้วยรางวัล Michelin Guide โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม นำเสนอในสไตล์โมเดิร์น ภายใต้การบริหารงานของ ศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และ เกวลิน พิทยานุกุล โดยมี เชฟดีกรี มิชลิน 1 ดาว “เชฟวิชิต มุกุระ” ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมากว่า 40 ปี มาร่วมรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ ในฐานะ Executive Chef ประจำร้าน โดยได้จัดงานฉลองเปิดร้านอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดโซนใหม่ กลาส เฮ้าส์ สำหรับ บริการในรูปแบบ Chef’s Table ณ ร้านรอยัล โอชา ซอยร่วมฤดี ถนนวิทยุ
ภกญ. ศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล เจ้าของ ร้านรอยัล โอชา เล่าจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งร้านอาหาร Luxury Thai Fine Dining ว่า “ด้วยความที่ครอบครัวชอบสรรหาของกินและเดินทางไปทั่วโลก เพื่อไปชิมอาหารจากร้านอาหารชื่อดัง รวมถึงร้านที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ทำให้มีโอกาสได้เข้าร้านอาหารที่เป็น Fine Dining บ่อยครั้ง ซึ่งร้านประเภทนี้ ทำให้เราได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของชาตินั้นๆ ไปพร้อมกัน จึงอยากนำพาอาหารไทย ซึ่งเป็นอาหารที่มีเสน่ห์ รสชาติดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปสู่จุดนั้นบ้าง ดังนั้น รอยัล โอชา เป็นร้านอาหารไทยแห่งแรกที่เป็น Luxury Thai Fine Dining เราอยากให้ร้านนี้เป็นสถานที่พิเศษของทุกคน สถานที่สำหรับฉลองในโอกาสสำคัญ หรือต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ประกอบกับ เชฟวิชิต มุกุระ ซึ่งมีความตั้งใจเดียวกันมาร่วมงาน โดยเข้ามาช่วยเสริมความละเมียดละไมและความพิถีพิถันในการรังสรรค์อาหาร Luxury Thai Fine Dining ให้เป็นรูปธรรม ประกอบกับน้องสาว พุธ-เกวลิน พิทยานุกุล ก็มีใจรักในด้านการทำอาหาร โดยเรียนจบการโรงแรมจากสวิสเซอร์แลนด์ และจบการทำอาหารจากอังกฤษซึ่ง เชฟวิชิต และ พุธ-เกวลิน เป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันครีเอทเมนูต่าง ๆ ภายในร้านให้มีความพิเศษยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังเปิดโซนใหม่ คือ โซนกลาส เฮ้าส์ ไว้สำหรับ บริการในรูปแบบ Chef’s Table อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้วางแผนที่จะขยายสาขาร้านรอยัล โอชา ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ”
เกวลิน พิทยานุกุล เชฟผู้วิจัยและพัฒนาเมนู และเจ้าของร้านรอยัล โอชา เผยถึงคอนเซปต์เมนูว่า “เราตั้งใจถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราวและวิถีชีวิต การกินอยู่ของคนไทยผ่านการปรุงรสชาติอาหารที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ภายใต้แนวคิด “Classic Thai Elegance Reinvented” ความสง่างามของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม พร้อมเสิร์ฟในนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เรียกว่าสัมผัสเสน่ห์ความเป็นไทยผ่านประสบการณ์อาหารไทยในรูปแบบทันสมัยแต่คงเอกลักษณ์ไว้ไม่เสื่อมคลาย โดยทางร้านให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีจากเกษตรกรในหลากหลายจังหวัดทั่วไทย รวมทั้งเสาะแสวงหาของดีขึ้นชื่อในแต่ละภาค มาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารไทย 4 ภาค รสชาติดั้งเดิมของท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน โดยเมนูจะหมุนเวียนตามฤดูกาล เพื่อคงคุณค่าและรสชาติที่ดีที่สุดของวัตถุดิบ”
ด้าน เชฟวิชิต มุกุระ เชฟดีกรี มิชลิน 1 ดาว ในฐานะ Executive Chef ร้าน รอยัล โอชา เผยว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ ร้านรอยัล โอชา ในการนำพาอาหารไทยไปสู่อีกระดับนึง นับเป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะอยากให้คนทั่วโลกมองว่าอาหารไทยไม่ใช่เพียงสตรีทฟู้ด แต่เป็นอาหารที่มีความลึกซึ้ง แฝงไปด้วยวัฒนธรรมโดยเมนูเชฟเทเบิ้ลของร้านได้รับการครีเอทขึ้นจากประสบการณ์การทำงานกว่า 40 ปี ของผม ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศเป็นการนำของดีของเมืองไทย มาผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่า อาหารแต่ละจานจะครบรสแบบอาหารไทยดั้งเดิมและคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน”
สำหรับบรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งอย่างเรียบ หรู ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากบรรยากาศและมนต์เสน่ห์ของพระราชวังสมัยโบราณ ด้วยสถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทอง ทั้งจิตรกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราว รามเกียรติ์ โคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ประดับด้วยอัญมณีส่องประกายระยิบระยับ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของร้านรอยัล โอชา การใช้เทคนิคพิเศษ 3D Mapping ฉายภาพเคลื่อน ไหวบนเพดานเพิ่มสีสันยามค่ำคืนให้มื้ออาหารค่ำน่าประทับใจยิ่งกว่าที่เคย
ภายในงานเปิดตัวคับคั่งไปด้วยเซเลบริตี้ที่มีไลฟ์สไตล์รักการกินดื่ม และชื่นชอบการสรรหาร้านอาหารที่มีความแตกต่าง เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิตอย่าง ดร.ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ที่บอกว่า หากจะเลือกร้านอาหารเพื่อมารับประทานกับคนพิเศษ จะให้ความสำคัญกับการได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ของมื้ออาหาร รวมทั้งมีบรรยากาศดีๆ เพื่อสร้างความทรงจำประทับใจให้แขกคนสำคัญ “เวลาพาใครมารับประทานอาหาร ก็อยากให้เขามีความทรงจำดีๆ ให้จดจำได้ ที่รอยัล โอชา นอกจากความสวยของสถานที่แล้ว เวลารับประทานอาหารก็ยังได้รับประสบการณ์ที่น่าค้นหาในทุกจาน เพราะการนำเสนอในทุกจาน มีทั้งหน้าตาของอาหารที่สวยงาม และดูไม่เหมือนอาหารไทย แต่เมื่อได้รับประทานกลับได้รสชาติแบบไทยๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นมากกว่าการได้รับประทานอาหารอร่อยๆ และได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ทั้ง รูป รส กลิ่น สัมผัส ที่แปลกตาออกไปจากร้านอาหารไทยอื่นๆ
“ที่สำคัญการได้เห็นแขกที่เราพามาตื่นเต้นกับความพิเศษต่างๆ เหล่านี้ ก็ยิ่งช่วยสร้างความสนุกและสร้างบทสนทนาระหว่างการรับประทานอาหารได้อีกด้วย สำหรับเมนูที่ชอบคือ แกงกระหรี่ล็อบสเตอร์ทอดกับข้าวทอดแหนมเห็ด ที่พิเศษตรงการพรีเซนต์หน้าตาเป็นอาหารฝรั่ง ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นเมนูอะไร แต่เมื่อได้ทานเข้าไปแล้ว ก็รู้ทันทีว่าคือ อาหารไทยเมนูอะไร ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์กับเมนูแต่ละจานมาก ๆ และทำให้แขกที่พามาด้วยได้สนุกไปด้วยกัน”
ด้าน ธนัท ตันอนุชิตติกุล และ สรัญทร เตชะไพบูลย์ เล่าว่า การเลือกร้านอาหารในโอกาสพิเศษจะคำนึงเรื่องรสชาติอาหารเป็นหลัก รวมถึงบรรยากาศ การตกแต่งร้าน และการบริการ “สำหรับความพิเศษของรอยัล โอชาที่ประทับใจคือ ความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบ และเชฟที่มีความใส่ใจในการปรุงทุกเมนู ที่สำคัญคือ ทุกอย่างมีสตอรี่ เวลาเชฟเล่าให้เรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง ก็ทำให้เราจินตนาการ ประทับใจ และภูมิใจในอาหารไทยของเราที่สามารถนำมาดัดแปลงให้กลายเป็นเมนูในแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน
“ก่อนหน้านี้รู้จักชื่อเสียงของเชฟวิชิตมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยมีโอกาสรับประทานอาหารฝีมือของเชฟเสียที ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้ชิมอาหารฝีมือเชฟวิชิต และประทับใจมากที่รอยัล โอชา มีบริการในส่วนของเชฟ เทเบิ้ล ตั้งใจไว้ว่าต่อไปถ้ามีแขกคนสำคัญมาจากต่างประเทศ จะพามารับประทานอาหารที่รอยัล โอชา และยิ่งมีบริการเชฟ เทเบิ้ล ก็ยิ่งเพิ่มความพิเศษให้มากยิ่งขึ้นด้วย สำหรับเมนูที่ชอบคือ สแกลล็อปทอดกับไข่ตุ๋นซอสซีฟู้ด และในส่วนของของหวานที่ประทับใจเป็นพิเศษคือ ดอกจอกใบเตยกับหวานเย็นข้าวหมากกับสาเก”
“รอยัล โอชา” (Royal Osha) ร้านอาหาร Luxury Thai Fine Dining ที่ได้รับการแนะนำจากมิชลินไกด์ ตั้งอยู่ที่ ซอยร่วมฤดี ถนนวิทยุ เปิดทุกวัน มื้อเที่ยง เวลา 11.00-15.00 น. และมื้อเย็น เวลา 18.00-23.00 น. สำหรับบริการ Chef’s Table โดย เชฟวิชิต มุกุระ กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า 1 สัปดาห์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-256-6555 หรือ อีเมล reservations@royalosha.com