เมื่อมีโอกาสได้ไปเยือนแหลมพันวาของภูเก็ต นอกจากการชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลสีคราม และสูดอากาศสดชื่นริมทะเลแล้ว ตกเย็นก็ต้องมองหาร้านอาหารสุดหรูดินเนอร์สักหน่อย ถึงจะเป็นทริปพักผ่อนที่แสนจะชิลล์อย่างแท้จริง
Life Diary ขอแนะนำ ท็อป ออฟ เดอะ รีฟ (Top of The Reef Restaurant) ห้องอาหารฝรั่งเศสที่ให้บริการอาหารมื้อค่ำสุดหรู ซึ่งป้ายของห้องอาหารเขียนบอกไว้เลยว่า “Please Dress Smart Casual” เพื่อบอกให้ลูกค้ารู้ว่า หากมารับประทานอาหารที่นี่ ต้องแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยและดูดีหน่อยนะจ๊ะ
ท็อป ออฟ เดอะ รีฟ เปิดให้บริการมา 30 ปีแล้ว (ตั้งแต่ปี 2531) โดยเปิดพร้อมๆ กับโรงแรมเคปพันวา ตัวห้องอาหารตั้งอยู่บนยอดเขาเหนือแนวปะการังของแหลมพันวา ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นเรียบหรู มีทั้งโซนอินดอร์และเอาต์ดอร์ ด้านในเน้นโทนสีขาวประดับด้วยภาพวาดสีสดใส ส่วนด้านนอกเน้นความร่มรื่นของไม้ประดับ ให้อารมณ์เหมือนกำลังนั่งอยู่ในสวน สามารถนั่งชมวิวทะเลอันดามันได้อย่างชัดเจนเต็มตา
อัสรี พันธุ์ฉลาด ผู้จัดการห้องอาหาร บอกว่า ท็อป ออฟ เดอะ รีฟ มีเมนูอร่อยมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารฝรั่งเศสและอาหารยุโรปที่นำวัตถุดิบสดใหม่จากทะเลมาประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์เมนู โดยลูกค้าสามารถเข้ามารับบริการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.30-23.00 น. ใครจะมานั่งรับประทานอาหารชิลล์ๆ พร้อมกับฟังเสียงเปียโนเล่นสดไปด้วยก็ได้ ตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. ของทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร)
จานแรกที่แนะนำคือ Lobster Medallions with Asparagus & Tomatoes, Curry Cream Sauce จานนี้หน้าตาสวยงามน่ากินมาก กุ้งล็อบสเตอร์หั่นชิ้นมาพอดีคำ จัดวางเรียงรอบๆ หน่อไม้ฝรั่ง เสิร์ฟพร้อมครีมซอสสูตรพิเศษ
ต่อด้วย Rib Eye Steak With Red Wine Sauce ริบอายสเต๊กคือเนื้อระหว่างสันในและสันนอก เป็นเนื้อเกรดเอนำเข้าจากออสเตรเลียชิ้นโตๆ ราดด้วยซอสไวน์แดง ตกแต่งด้วยมันฝรั่ง บร็อกโคลี และแครอทต้มผัดเนย เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว น่าลิ้มลอง
ถัดมาคือ Grilled Fillet Of Lamb With Onion Sauce เนื้อแกะที่นำไปกริลล์แล้วนำมาสไลซ์ จัดวางมาพร้อมเครื่องเคียงอย่างมันฝรั่ง บร็อกโคลี และแครอทต้มผัดเนย เนื้อด้านในกริลล์แบบมีเดียมแรร์สีออกแดงเรื่อๆ บ่งบอกถึงความสดของเนื้อ ตัดกับซอสหัวหอมสีขาวครีม ทำให้เนื้อดูน่ากินมากยิ่งขึ้น ไม่ได้สวยแค่หน้าตา แต่รสชาติยังอร่อยนุ่มลิ้นด้วย
อีกหนึ่งเมนูที่คนรักอาหารทะเลไม่ควรพลาด Saute Tiger Prawns With Sweet Basil Sauce กุ้งลายเสือขนาดใหญ่ นำมาผัดขลุกขลิกกับซอสเบซิล หอม อร่อยจนหยุดไม่อยู่
ปิดท้ายด้วยของหวานที่ไม่ควรพลาด Pineapple Alaska นอกจากหน้าตาที่ชวนชิมแล้ว วิธีการทำก็พิถีพิถัน โดยการนำสับปะรดภูเก็ตมาผ่าซีก คว้านเนื้อสับปะรดมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้ววางลงไป ตามด้วยไอศกรีมวานิลลา ตีไข่ขาวโปะด้านบน โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง แล้วนำไปอบด้วยความร้อนสูง ชิมแล้วได้รสหวานจากเนื้อไอศกรีมและไอซิ่ง ตัดกับรสอมเปรี้ยวของเนื้อสับปะรด อร่อยมาก
นอกจากเมนูที่แนะนำแล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย อ้อ! ขอบอกนิดนึงว่า กุ้งมังกรที่ห้องอาหารเลือกใช้ในเมนูนั้น ต้องมีน้ำหนัก 7 ขีดตามมาตรฐานทุกตัวเชียวละ (ราคาอาหารเริ่มที่ 220-2,100 บาท)
ท็อป ออฟ เดอะ รีฟ อยู่ด้านในสุดของโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 18.30-23.00 น. โทร.076-391-123 หรือ www.capepanwa.com