เมื่อมีโอกาสได้ไปเยือนแหลมพันวาของภูเก็ต นอกจากการชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลสีคราม และสูดอากาศสดชื่นริมทะเลแล้ว ตกเย็นก็ต้องมองหาร้านอาหารสุดหรูดินเนอร์สักหน่อย ถึงจะเป็นทริปพักผ่อนที่แสนจะชิลล์อย่างแท้จริง
Life Diary ขอแนะนำ ท็อป ออฟ เดอะ รีฟ (Top of The Reef Restaurant) ห้องอาหารฝรั่งเศสที่ให้บริการอาหารมื้อค่ำสุดหรู ซึ่งป้ายของห้องอาหารเขียนบอกไว้เลยว่า “Please Dress Smart Casual” เพื่อบอกให้ลูกค้ารู้ว่า หากมารับประทานอาหารที่นี่ ต้องแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยและดูดีหน่อยนะจ๊ะ
![](https://lifediary.net/wp-content/uploads/2019/04/03-11-1024x683.jpg)
ท็อป ออฟ เดอะ รีฟ เปิดให้บริการมา 30 ปีแล้ว (ตั้งแต่ปี 2531) โดยเปิดพร้อมๆ กับโรงแรมเคปพันวา ตัวห้องอาหารตั้งอยู่บนยอดเขาเหนือแนวปะการังของแหลมพันวา ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นเรียบหรู มีทั้งโซนอินดอร์และเอาต์ดอร์ ด้านในเน้นโทนสีขาวประดับด้วยภาพวาดสีสดใส ส่วนด้านนอกเน้นความร่มรื่นของไม้ประดับ ให้อารมณ์เหมือนกำลังนั่งอยู่ในสวน สามารถนั่งชมวิวทะเลอันดามันได้อย่างชัดเจนเต็มตา
![](https://lifediary.net/wp-content/uploads/2019/04/02-12-1024x576.jpg)
อัสรี พันธุ์ฉลาด ผู้จัดการห้องอาหาร บอกว่า ท็อป ออฟ เดอะ รีฟ มีเมนูอร่อยมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารฝรั่งเศสและอาหารยุโรปที่นำวัตถุดิบสดใหม่จากทะเลมาประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์เมนู โดยลูกค้าสามารถเข้ามารับบริการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.30-23.00 น. ใครจะมานั่งรับประทานอาหารชิลล์ๆ พร้อมกับฟังเสียงเปียโนเล่นสดไปด้วยก็ได้ ตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. ของทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร)
![](https://lifediary.net/wp-content/uploads/2019/04/04-5-1024x768.jpg)
จานแรกที่แนะนำคือ Lobster Medallions with Asparagus & Tomatoes, Curry Cream Sauce จานนี้หน้าตาสวยงามน่ากินมาก กุ้งล็อบสเตอร์หั่นชิ้นมาพอดีคำ จัดวางเรียงรอบๆ หน่อไม้ฝรั่ง เสิร์ฟพร้อมครีมซอสสูตรพิเศษ
![](https://lifediary.net/wp-content/uploads/2019/04/05-4-1024x768.jpg)
ต่อด้วย Rib Eye Steak With Red Wine Sauce ริบอายสเต๊กคือเนื้อระหว่างสันในและสันนอก เป็นเนื้อเกรดเอนำเข้าจากออสเตรเลียชิ้นโตๆ ราดด้วยซอสไวน์แดง ตกแต่งด้วยมันฝรั่ง บร็อกโคลี และแครอทต้มผัดเนย เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว น่าลิ้มลอง
![](https://lifediary.net/wp-content/uploads/2019/04/06-1024x768.jpg)
ถัดมาคือ Grilled Fillet Of Lamb With Onion Sauce เนื้อแกะที่นำไปกริลล์แล้วนำมาสไลซ์ จัดวางมาพร้อมเครื่องเคียงอย่างมันฝรั่ง บร็อกโคลี และแครอทต้มผัดเนย เนื้อด้านในกริลล์แบบมีเดียมแรร์สีออกแดงเรื่อๆ บ่งบอกถึงความสดของเนื้อ ตัดกับซอสหัวหอมสีขาวครีม ทำให้เนื้อดูน่ากินมากยิ่งขึ้น ไม่ได้สวยแค่หน้าตา แต่รสชาติยังอร่อยนุ่มลิ้นด้วย
![](https://lifediary.net/wp-content/uploads/2019/04/07-1024x768.jpg)
อีกหนึ่งเมนูที่คนรักอาหารทะเลไม่ควรพลาด Saute Tiger Prawns With Sweet Basil Sauce กุ้งลายเสือขนาดใหญ่ นำมาผัดขลุกขลิกกับซอสเบซิล หอม อร่อยจนหยุดไม่อยู่
![](https://lifediary.net/wp-content/uploads/2019/04/08-2-768x1024.jpg)
ปิดท้ายด้วยของหวานที่ไม่ควรพลาด Pineapple Alaska นอกจากหน้าตาที่ชวนชิมแล้ว วิธีการทำก็พิถีพิถัน โดยการนำสับปะรดภูเก็ตมาผ่าซีก คว้านเนื้อสับปะรดมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้ววางลงไป ตามด้วยไอศกรีมวานิลลา ตีไข่ขาวโปะด้านบน โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง แล้วนำไปอบด้วยความร้อนสูง ชิมแล้วได้รสหวานจากเนื้อไอศกรีมและไอซิ่ง ตัดกับรสอมเปรี้ยวของเนื้อสับปะรด อร่อยมาก
นอกจากเมนูที่แนะนำแล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย อ้อ! ขอบอกนิดนึงว่า กุ้งมังกรที่ห้องอาหารเลือกใช้ในเมนูนั้น ต้องมีน้ำหนัก 7 ขีดตามมาตรฐานทุกตัวเชียวละ (ราคาอาหารเริ่มที่ 220-2,100 บาท)
ท็อป ออฟ เดอะ รีฟ อยู่ด้านในสุดของโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 18.30-23.00 น. โทร.076-391-123 หรือ www.capepanwa.com