Lifediary ออกตัวแรงช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยการชวนคุณๆ ไปดินเนอร์หรูยามค่ำคืนในราคาหลักพัน พร้อมชมวิวหลักล้านที่ ‘Urbani Truffle Bar & Restaurant’ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 39 อาคารสาทรสแควร์ บอกเลยว่าเมื่อมาที่นี่ คุณจะเต็มอิ่มและฟินไปกับสุดยอดเมนูที่มีส่วนผสมของแบล็คทรัฟเฟิลอันขึ้นชื่อจากแคว้น Umbria ของอิตาลีในทุกๆ เมนู ยิ่งใครรู้ตัวว่าเป็นชาว ‘Truffle Lover’ ด้วยนะ ยิ่งห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
เมื่อก้าวเข้ามาในร้านซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอันดับ 1 ในเมืองไทยในเรื่องเมนู ‘เห็ดทรัฟเฟิล’ อย่าง Urbani Truffle Bar & Restaurant (เออร์บานี ทรัฟเฟิล บาร์ แอนด์ เรสเทอรองต์) พูดเลยว่าคุณจะลืมโลกภายนอกไปชั่วขณะเลยละ
คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่ตกแต่งด้วยความหรูหราผสมผสานความโมเดิร์น บนพื้นที่กว้างขวางที่สามารถรองลูกค้าได้มากมาย แถมยังมีไพรเวทโซนให้ได้เลือกนั่งกันอีกด้วย ถ้ามาในช่วงเย็นๆ ก่อนค่ำ จะได้ดื่มด่ำกับวิวสวยๆ ด้านนอกของตึกสูงซึ่งเป็นซิตี้วิวสุดโรแมนติกยามอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ส่วนในยามค่ำคืนแค่ได้มองวิวและสีสันของแสงไฟย่านสาทรในมุมสูง แค่นี้ก็น่าประทับใจแล้ว
ที่สำคัญยังเดินทางสะดวกง่ายดาย เพราะสามารถใช้บริการรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรี แล้วเดินเข้าสู่ตัวอาคารสาทรสแควร์ได้เลย ก่อนขึ้นไปยังร้านซึ่งอยู่ที่ชั้น 39 ก็แค่แจ้งเจ้าหน้าที่บริเวณเคาน์เตอร์ชั้น 1 ของตึก ว่าต้องการขึ้นมาที่ Urbani Truffle Bar & Restaurant ก็จะมีคนมากดลิฟต์ให้คุณขึ้นไปอย่างสะดวกสบาย
หลังจากเลือกที่นั่งริมกระจกเตรียมชมพระอาทิตย์อัสดงเรียบร้อย ก่อนจะสั่งสุดยอดเมนูทั้ง 5 คอร์ส ควรเรียกน้ำย่อยด้วยขนมปังทาเนยที่ผสมเห็ดทรัฟเฟิลเป็นอันดับแรกก่อนเลย
ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มสั่ง 5 Courses Tasting Menu จากฝีมือรังสรรค์ของChef Salvatore Salis เชฟอิตาลีชื่อดัง (ในราคา 3,900 บาท ++ พร้อมไวน์โปรเซคโก้ 1 แก้ว) กันได้เลย
คอร์ส 1 :
เลือกได้ 2 เมนูคือ Beef Truffle Tartare และ Steam Monkfish Tail Citrus ซึ่งเด็ดทั้งสองเมนู สำหรับเมนูเนื้อจะใช้เนื้อเทนเดอร์ลอยน์จากออสเตรเลีย เสิร์ฟพร้อมทรัฟเฟิลมัสตาร์ด และเห็ดทรัฟเฟิลดำฝานบางๆ จานนี้คนชอบเนื้อต้องกรี๊ด!!
ส่วนเมนูปลา Steam Monkfish Tail Citrus จานนี้ใช้ปลามังค์ฟิช เคียงด้วยเลมอนซอส ซอสส้ม และ Evo Oil หรือน้ำมันมะกอกสกัดเย็น เมนูนี้ก็อร่อยฟินอีกเช่นกัน
คอร์ส 2 :
เป็นเมนูซุปที่สามารถเลือกได้ระหว่าง Truffle Soup-ซุปเห็ดทรัฟเฟิล หรือ Warm Wild Red Mullet Soup-ซุปปลา
เราเลือก Truffle Soup หรือซุปเห็ดทรัฟเฟิล ที่เสิร์ฟมาในรูปลักษณ์เก๋ๆ พร้อมแป้งพัฟฟ์ที่กรอบนอกนุ่มใน เมื่อกระเทาะแป้งฟูๆ ด้านบนออก ด้านในจะเป็นตัวซุปที่สัมผัสได้ถึงความเข้มข้นของทรัฟเฟิลครีมแบบเต็มๆ ตักเข้าปากคำแรกจะรู้สึกถึงกลิ่นและรสชาติของทรัฟเฟิลที่อบอวลอยู่ในปาก โอ๊ย!! อร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลย!!
คอร์ส 3 :
คอร์สที่ 3 ก็เลือกได้ระหว่างริซอตโต้กับพาสต้า ขอเริ่มจาก Risotto Smoked Duck In Barolo Wine And Truffle ก่อนละกัน ว้าว!! ถือเป็นริซอตโต้ที่อร่อยมากๆ เพราะมีความละมุน กลมกล่อมแบบครีมมี่ (แต่ไม่เลี่ยน) เมนูนี้มีส่วนผสมของข้าวพันธุ์ Carnaroli, อกเป็ด, หอมแดง, ไวน์บาร์โรโล่, ชีสพาร์มิจาโน่ เรจจาโน่ และเห็ดทรัฟเฟิล หอมอร่อยจนเผลอกินหมดจานโดยไม่รู้ตัว
อีกเมนูคือ Linguine Di Gragnano In Rye Bread Sauce And Truffle ใครที่ชอบพาสต้าต้องไม่พลาดเมนูนี้ นอกจากเส้นพาสต้าเหนียวนุ่มที่มาพร้อมซอสแสนอร่อยแล้ว แน่นอนว่าต้องมีเห็ดทรัฟเฟิลสไลซ์ชิ้นใหญ่ๆ เคียงคู่มาด้วย
คอร์ส 4 :
ได้เวลาเมนคอร์สหรือจานหลักสักที คอร์สนี้เลือกได้ 2 เมนูเช่นกัน ระหว่างเนื้อกับปลา เมนูแรก Tournedos Rossini เนื้อออสเตรเลียนเทนเดอร์ลอยน์ชั้นดี ที่ย่างมาแบบมีเดียมแรร์ ท็อปปิ้งด้วยฟัวกราส์ชิ้นหนานุ่ม โรยหน้าอีกทีด้วยแบล็คทรัฟเฟิลสไลซ์แบบเต็มๆ โอ๊ย!! สุดจะบรรยาย
อีกจานคือ Filetto Di Spigola Scottato Servito Su Coulis Di Pomodoro E Timo Al Limone เมนูนี้เป็นเนื้อปลา ที่เสิร์ฟเคียงคู่มาพร้อมผักและซอสที่ตกแต่งจานมาอย่างสวยงาม ใครไม่กินเนื้อแนะนำเมนูนี้
คอร์ส 5 :
ปิดท้ายด้วยของหวานกันสักหน่อย พูดเลยว่ารู้สึกลำบากใจไม่น้อย ถ้าต้องเลือกระหว่างเมนูช็อคโกแลตและครีมชีสมะม่วง
เมนูแรก Tiramisu Chocolate Sphere เป็นทีรามิสุ ช็อคโกแลต ที่เสิร์ฟมาในรูปลักษณ์ของช็อคโกแลตสเฟียร์ ให้รสชาติเข้มข้นหวานมัน โรยด้วยผงทองคำด้านบนช็อคโกแลตอีกที พร้อมกับโรยทรัฟเฟิลมาด้วย แนะนำว่าต้องกินให้ถึงฐานล่าง เพราะช็อคโกแลตครัมเบิ้ลที่รองมาด้านล่างนั้นอร่อยเวอร์จริงๆ
ส่วน Mango And Truffle เมนูนี้เป็นครีมชีสมะม่วงนุ่มละมุน เสิร์ฟมาพร้อมเชอร์เบตมะม่วง มะม่วงสุกหั่นเต๋า ซอสมะม่วง บัตเตอร์ครัมเบิ้ล และทรัฟเฟิลสไลซ์ ปิดท้ายมื้อด้วยสุดยอดขนมหวานแบบนี้ ไม่ฟินให้มันรู้ไป!!
หลังจบดินเนอร์ ถ้าคุณอยากจะนั่งดริงก์ชิลล์ๆ ต่ออีกสักหน่อย ให้แวะไปยังโซนที่เป็นส่วนของบาร์ แล้วสั่งเครื่องดื่มเท่ๆ จากฝีมือการสร้างสรรค์ของ วุฒา วิจักษณ์วิชชากร มิกโซโลจิสต์คนเก่งประจำบาร์
แก้วแรก Tartufo Old Fashion แก้วนี้มีส่วนผสมของ เบอร์เบิน, ทรัฟเฟิลไซรัป และเหล้าบิตเทอร์ บอกเลยว่าแก้วนี้ดีกรีแรงมากๆ
อีกแก้วเป็นค็อกเทลสุดเก๋ที่ชื่อ Casa Mia มีส่วนผสมของ ดาร์ครัม, เบียร์ไซรัป, น้ำมะนาว และไข่ขาว แล้วเชคให้เกิดฟองนุ่ม ตกแต่งด้วยการโรยผง Kakao และทรัฟเฟิลสไลซ์ ดีกรีเบาๆ สาวๆ ดื่มได้
Urbani Truffle Bar & Restaurant อยู่ที่ชั้น 39 อาคารสาทรสแควร์ หากเดินทางด้วย BTS ให้ลงที่สถานีช่องนนทรี ห้องอาหารเปิดบริการ 11.00-23.00 น. สอบถามโทร.0-2233-1990
Facebook : Urbanitrufflebarbangkok/
Website : www.Trufflebar.Com/