Saturday 20 April 2024 | 3 : 30 pm

Chuleethorn Home & Cuisine ชิมเมนูอร่อย รสชาติจากความทรงจำของครอบครัว

Chuleethorn Home & Cuisine ร้านนี้ได้ชื่อมาจากชื่อจริงของ เก๋-ชุลีธร หิรัญเพิ่ม ผู้เป็นเจ้าของร้าน ที่นี่มีจุดเด่นตรงอาหารไทยซึ่งรสชาติของแต่ละเมนู ล้วนมาจากความทรงจำของครอบครัว ที่เธอได้เติบโตและเคยทำ อาหารและรับประทานร่วมกับคุณพ่อคุณแม่

เก๋-ชุลีธร หิรัญเพิ่ม

“แต่ละเมนูของที่ร้าน เก๋จะเลือกสรรวัตถุดิบเอง และลงมือปรุงทุกเมนูเองทั้งหมดเลยค่ะ โดยวัตถุดิบบางส่วนก็จะเลือกสั่งมาจากร้านที่ครอบครัวของเก๋เคยสั่งและเคยใช้ทำอาหารมาตั้งแต่เก๋ยังเด็กๆ ด้วยความที่คุณพ่อเก๋ซึ่งมีเชื้อสายมอญ แถมครอบครัวฝั่งคุณแม่ก็แต่งงานกับคนมุสลิมอีกด้วย คุณพ่อจึงซึมซับเรื่องทำกับข้าวและทำอาหารเก่งมาแต่ดั้งเดิม โดยเฉพาะด้านเครื่องแกงคุณพ่อจะเก่งเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ คุณพ่อยังเป็นสายปาร์ตี้อีกด้วย ฉะนั้นเวลาทำอาหารแต่ละครั้ง ท่านก็จะทำทีละเยอะๆ จึงมีเพื่อนๆ คุณพ่อแวะเวียนมาที่บ้านไม่ขาดสาย เก๋เลยเติบโตขึ้นมาโดยคุ้นเคยกับการที่เห็นเพื่อนๆ ของคุณพ่อมารับประทานอาหารที่บ้านอยู่บ่อยๆ ทำให้เก๋ซึมซับและสนุกกับการทำอาหารตามคุณพ่อไปโดยไม่รู้ตัว เวลาทำ อาหารเก๋จะใช้เครื่องแกงสูตรของคุณพ่อและใช้วัตถุดิบอย่าง ผัก พริก ตะไคร้ และอื่นๆ ที่ปลูกไว้รอบๆ บริเวณบ้านมาปรุงเมนู โดยเป็นลูกมือช่วยคุณพ่อในครัวมาตั้งแต่เก๋เรียนอยู่ชั้นประถม 3 เลยค่ะ”

เก๋เล่าว่า แรกๆ ก่อนที่จะเปิดร้านอาหาร เพื่อนๆ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ว่าเธอชอบทำอาหาร เพราะโดยปกติแล้ว เวลาปรุงอาหารเก๋มักจะทำให้คนในครอบครัวของเธอรับประทานซะมากกว่า เรียกว่าเป็นเมนูรสชาติของครอบครัวที่ทำให้คนที่เธอรักได้รับประทานกัน กระทั่งช่วงที่คุณแม่ไม่สบาย ท่านก็บอกว่าให้เธอลองเปิดร้านอาหารดูสิ แต่กระนั้นเก๋ก็ค้านในใจว่า คนอื่นจะชอบรสชาติเมนูในสไตล์ครอบครัวของเราเหรอ? กระทั่งวันที่คุณแม่เสียไป เก๋จึงทำตามสัญญาที่เคยพูดไว้กับคุณแม่ ด้วยการลาออกจากงานประจำสายแฟชั่นที่ทำมายี่สิบปี แล้วเริ่มเปิดร้านอาหาร Chuleethorn Home & Cuisine ขึ้น พร้อมทั้งสานต่อภารกิจประจำวันของคุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องดูแลบ้าน พร้อมทั้งดูแลสัตว์เลี้ยงภายในบ้านไปด้วย

“ตัวร้านอาหารหลังนี้สร้างขึ้นบริเวณบ้านซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวเก๋เองค่ะ เป็นสถานที่ที่เก๋เติบโตมาตั้งแต่เด็กๆ รูปทรงของร้านเป็นบ้านหลังคาสูงทรงจั่ว ภายในร้านตกแต่งด้วยโต๊ะไม้ซึ่งแฟนเก๋เป็นคนออกแบบเองทั้งหมด เป็นงานไม้สไตล์ไทยที่ต้องเข้าลิ่มเข้าสลักและใช้ความชำนาญนิดนึง ส่วนเก้าอี้ก็เป็นของเก่าที่เก๋สะสมไว้นานแล้ว นำมาตกแต่งให้ดูแมตช์กัน เมื่อก้าวเข้ามาในร้านจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของบ้านสมัยก่อน ที่การเดินสายไฟจะเป็นแบบติดตัวยึดไล่ขึ้นไปตามผนังบ้านให้เห็นสายไฟแบบเปลือยๆ เลย มันจะเป็นความไม่เนี้ยบ แต่ก็อบอวลไปด้วยความสุข ตัวร้านเน้นโทนสีขาวสะอาดตา ตกแต่งด้วยของเก่าอย่าง ปิ่นโตที่แม่ชอบหิ้วไปวัด กาต้มน้ำแบบมีหูหิ้วของพ่อ กระโถนบ้วนน้ำหมากของปู่ และตะเกียงมีไส้แบบจุดไฟ เป็นต้น คือของทุกชิ้นจะมีเรื่องราวของมัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นของเก่าที่เก๋เก็บไว้ ร้านนี้จึงให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านแห่งความสุขที่เก๋เติบโตมาเลยละค่ะ”

เมื่อพูดถึงเมนูเด่นๆ ของร้าน เก๋บอกว่า ส่วนใหญ่เป็นเมนูที่ปรุงด้วยพริกแกง เพราะเครื่องแกงที่นำมาปรุงจะเป็นเครื่องแกงที่เธอทำเอง จึงมีความเข้มข้นของรสชาติเครื่องแกงที่หอมอร่อยและแตกต่างจากบ้านอื่นๆ

เมนูเด่นก็เช่น ‘มัสมั่นรามัญเนื้อ’ จุดเด่นอยู่ที่การเลือกเนื้อวัว ว่าทำอย่างไรให้ชิ้นของเนื้อวัวเมื่อแกงออกมาแล้วเป็นเส้นๆ สวยงาม เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใช้เนื้อสันนอกเท่านั้น พร้อมด้วยพริกแกงมัสมั่นที่ทำเอง กลิ่นพริกแกงจะหอมขึ้นจมูกเนื่องจากใส่ดอกจัน จึงมีกลิ่นคล้ายกับเครื่องเทศของแขก เมนูมัสมั่นนี่จะใช้เวลาเคี่ยวแกง 2-3 วันด้วยไฟอ่อนๆ จากถ่านไม้โกงกาง

‘ไข่พะโล้’ เนื้อหมูในพะโล้จะนุ่มๆ ละลายในปากคล้ายหมูฮ้อง ซึ่งไข่พะโล้ของที่ร้านจะเลือกใช้ไข่เป็ด เพราะไข่แดงจะมีรสชาติมันๆ ยิ่งเคี้ยวนาน ไข่แดงก็จะมีความมันอร่อยมากยิ่งขึ้น

‘ปีกไก่ยัดไส้’ เมนูนี้ทำยาก เริ่มจากต้องค่อยๆ เลาะเอ็นกระดูกไก่ออกทีละข้อๆ จากนั้นจึงยัดส่วนผสมของเนื้ออกไก่ กุ้ง และวุ้นเส้นลงไปในปีกไก่ให้เป็นรูปทรงเหมือนเดิม เวลาทอดก็ต้องทอดให้เหลืองกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม ถือเป็นอีกเมนูที่หาทานยากและอร่อยมากๆ

‘ปลาดุกฟูพริกขิง’ เครื่องแกงก็คือพริกขิงที่ต้องบดละเอียด จานนี้จะได้กลิ่นของผิวมะกรูดนำมาก่อนเลย เวลาผัดพริกขิงก็ต้องใช้ไฟอ่อนๆ ผัดไปเรื่อยๆ ส่วนปลาดุกจะใช้วิธิสับให้มีเท็กเจอร์แล้วนำไปทอดให้เหลือง จากนั้นนำมาผัดกับพริกขิงที่คั่วไว้อีกที เมนูนี้ถ้าผัดไม่ดีปลาดุกจะนิ่มเกินไปและไม่อร่อย ต้องผัดให้เนื้อปลาดุกกรอบและอยู่ได้นาน ซึ่งต้องใช้เทคนิคด้วยเช่นกัน

‘เมี่ยงคำ’ นอกจากเครื่องเคียงเมี่ยงที่ต้องสดใหม่แล้ว จุดเด่นของน้ำเมี่ยงคำของร้านคือจะใช้ข่าแก่เผาเป็นส่วนผสมด้วย จึงได้น้ำเมี่ยงคำที่มีความหอมมากๆ รับรองว่าเป็นเมี่ยงคำที่ไม่เหมือนที่อื่นแน่นอน

‘พล่าหมูสามชั้น’ จานนี้เป็นเมนูแกล้มเหล้าเลยละ เป็นจานต้นตำรับของคุณพ่อเก๋ ที่จะนำหมูสามชั้นไปหมักกับหัวกะทิให้เนื้อหมูนุ่ม จากนั้นนำมาคลุกกับเครื่องพล่า จานนี้จะมีความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม เรียกว่าครบรสในจานเดียว

‘ขนมจีนน้ำพริก’ เมนูนี้จะแตกต่างจากขนมจีนน้ำพริกของภาคกลางตรงที่ ของภาคกลางน้ำพริกจะออกรสหวานๆ แต่เมนูที่ร้านน้ำพริกจะออกรสเค็มๆ หน่อย คล้ายๆ ยำทวาย วิธีการคือนำหัวกะทิมาเคี่ยวกับถั่วเหลืองที่แช่น้ำทิ้งไว้หนึ่งคืน เคี่ยวจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเคี่ยวกับกุ้ง แล้วปรุงรสด้วย น้ำมะกรูด น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก ใส่หอมเจียวลงไป ก็จะได้รสชาติที่กลมกล่อมกำลังพอดี  

นอกจากนี้ ยังมีเมนูอร่อยน่ารับประทานอีกเพียบเลย เช่น กุ้งต้มพลิกเกลือ, ไข่ขยี้ (กุ้ง / ปู), ต้มยำกุ้ง, แกงรัญจวนหมู, แกงเขียวหวานปลากรายขูด, ขนมจีนซาวน้ำ, ไอศกรีมกะทิทรงเครื่อง รวมทั้งเครื่องดื่มอย่าง ชาไทย, โรสมิลค์, ยูจิ มัตฉะ ลาเต้, ยูจิ มัตฉะ เลม่อน, ชาแดงสไตล์อินเดียนและน้ำส้ม, ชาดำมะนาวจากพม่า, บ๊วยมะนาวโซดา, เชอร์รี่โซดา, ยูสุโซดา, เลม่อนน้ำผึ้งโซดา, น้ำเลม่อนและใบไทม์ผสมโซดา, น้ำมะตูม และน้ำอัญชันโซดา

ร้านเปิด ศุกร์ /เสาร์ /อาทิตย์ / จันทร์ ตั้งแต่ 11.00-18.00 น. ร้านอยู่เลขที่ 8/1 ถนนเลียบคลองหลวงแพ่ง บางแก้ว บางพลี จ.สมุทรปราการ สอบถามหรือจองโต๊ะได้ที่ โทร.09-2496-9415 เพจเฟซบุ๊ค : Chuleethorn Home & Cuisine

สำนักงานสลากฯ เปิดตัว โครงการ SEED PROJECT ปี 4 ‘สร้างผู้นำเยาวชน พาท้องถิ่นสู่สากล’

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ จีแอลโอ เดิน...