ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารนั่งชิลล์ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสวนอันร่มรื่นใจกลางกรุง เราขอแนะนำ ‘Monkey Pod’ ทาปาสบาร์เรสเตอรองท์แอนด์คาเฟ่ สุขุมวิท 13 ซึ่งตัวร้านตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิก กับพื้นที่โซนด้านในของบ้านไม้สักทองอันงดงามสไตล์โคโลเนียลอายุกว่า 100 ปีกลางย่านสุขุมวิท ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันน่าค้นหา ส่วนใครที่ชอบอากาศถ่ายเท ลมพัดเย็นๆ จะนั่งชมวิวอย่างเพลิดเพลินใต้ต้นจามจุรียักษ์ ท่ามกลางความร่มรื่นเขียวขจีของแมกไม้นานาชนิดที่โซนเอาต์ดอร์ก็ได้ คุณจะไร้ความกังวัลใจจากโควิด-19 ด้วยมาตรการในการดูแลความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าและพนักงานทุกคน
สำหรับเมนูของ Monkey Pod จะเน้นอาหารอีสานสไตล์ตะวันตก (East meets West) ที่บอกได้เลยว่า แต่ละเมนูรสชาติสุดเซอร์ไพรส์ ยิ่งเมื่อได้ลิ้มลองก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความฟินสุดๆ ทุกเมนูสร้างสรรค์โดย เชฟดู่-ทวีศักดิ์ พุทธาวงศ์ เชฟเชื้อสายลาว ผู้มากประสบการณ์ในการทำอาหารหลากหลายสัญชาติ จากเมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และสหราชอาณาจักร พร้อมทั้งเป็น Development Chef ที่โรงเรียนสอนทำอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ กรุงเทพฯ อีกด้วย จึงรับประกันได้ว่าแต่ละเมนูรสชาติไม่ธรรมดาแน่นอน
เริ่มจากเมนูแรก ‘ฮอตด็อกหมันโถวทอดไส้กั่ว’ (Lao Dog) เมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องลิ้มลองฮอตด็อกที่เชฟได้รับแรงบันดาลใจจากหมันโถวทอดสไตล์ไต้หวันที่หอมกลิ่นนมเนย ทานคู่กับไส้กั๋วสูตรพิเศษความลงตัวของรสชาติที่โดดเด่นที่มีเอกลักษณ์ของไส้อั่วและไส้กรอกอีสาน ซึ่งเชฟได้รับการถ่ายทอดสูตรลับมาจากของคุณแม่อีกที เคียงด้วยแจ่วมะเขือเทศ ทานแล้วได้ความอร่อยแปลกใหม่ (ราคา 179 บาท)
ต่อด้วย ‘ไก่คลองไผ่อบพริกเหลือง-ครึ่งตัว’ (Klong Phai Chilli Chicken) เมนูนี้คือเนื้อไก่อบที่ชุ่มฉ่ำกำลังดี ผ่านการหมักด้วยน้ำหมักพริกเหลืองและสมุนไพรไทย อาทิ ตะไคร้ น้ำมะขาม รากผักชี กระเทียม ให้รสชาติในสไตล์ไก่พิริพิริ ทานคู่กับซอส Chimichurri กับหอมแขกดองบีทรูทที่หวานหอม และน้ำจิ้มสูตรพิเศษของร้าน โอ้โห! อร่อยเข้ากั๊น เข้ากัน (ราคา 389 บาท)
ตามด้วย ‘ข้าวผัดแจ่วบองเนื้อแบล็คแองกัสย่างปลาร้า ไข่ดองนํ้าปลา’ (Black Angus 4-5 MB Pla Ra Khao Phad Jeow Bong) อิ่มเบาๆ และสัมผัสความหอมละมุนของสมุนไพรจากแจ่วปลาร้าบองลาว ที่นำมาผัดคลุกเคล้ากันอย่างลงตัวกับข้าวสวย เสิร์ฟกับเนื้อแบล็คแองกัสย่างปลาร้าที่นุ่มกำลังพอดีและไข่ดองนํ้าปลา โอ๊ย! เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม (ราคา 279 บาท)
อีกเมนูเป็น ‘สเต๊กเนื้อย่าง’ สไตล์ Monkey Pod ที่ย่างสุกกำลังดี มีให้เลือกทั้งพอร์คชอปและเนื้อแบล็คแองกัส ซึ่งเป็นเนื้อคุณภาพสูงจากวัวขุน ที่มีความนุ่มและหอมด้วยไขมันแทรกในเนื้อแบบพอดีเป็นลายหินอ่อน ทานคู่กับแจ่วปลาร้าและยำสามชี จะทานเล่นหรือทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ฟินจนหยุดไม่อยู่เลยละ สเต๊กพอร์คชอปย่างปลาร้า ยำสามชี (Mhoo Pla Ra) 350 กรัม (ราคา 479 บาท) สเต๊กเนื้อแบล็คแองกัสย่างปลาร้า ยำสามชี (Black Angus Pla Ra 4-5 MB) 180 กรัม (ราคา 579 บาท)
ปิดท้ายด้วยของหวาน ‘ไอศกรีมนมทอด’ สัมผัสความอร่อยและความสนุกสนานของไอศกรีมนมทอด กับเมนู ‘When Phuket meets Esan’ ไอศกรีมข้าวคั่ว-นมทอดสูตรพิเศษของ Monkey Pod เสิร์ฟคู่กับสับปะรดภูเก็ตที่ย่างจนหอมกลิ่นคาราเมล และคัมโบเม็ดมะม่วง (ราคา 119 บาท)
มาที่เครื่องดื่มสูตรพิเศษ ที่สร้างสรรค์อย่างลงตัวโดยบาร์เทนเดอร์หนุ่มไฟแรง พลาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่มหลากหลาย ให้ทั้งความสดชื่นและดีต่อสุขภาพ อาทิ Bloody Mary Mocktail, Tropical Spice, Detox Detox, Monkey Planet, Monkey Lemonade, Monkey Spritzer เป็นต้น
ครั้งนี้ขอแนะนำ ‘Monkey Spritzer’ เครื่องดื่มแก้วสีชมพูหวาน มีส่วนผสมของน้ำผลไม้อย่าง แอปเปิ้ล น้ำมะนาว น้ำเชื่อมลิ้นจี่กระป๋อง น้ำเชื่อมสตรอเบอร์รี่ และไข่ขาว ท็อปปิ้งด้วยโซดา ตกแต่งด้วยลิ้นจี่และใบมินต์ ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวสดชื่น
อีกแก้วคือ ‘Monkey Planet’ แก้วสีเหลืองนวล มีส่วนผสมของสมุนไพร น้ำฝรั่ง น้ำส้ม น้ำมะนาว น้ำเชื่อม จินเจอร์เอล ตกแต่งด้วยพริกแดงและใบมะกรูด ให้รสชาติสดชื่นซาบซ่า ได้รสเผ็ดนิดๆ จากพริกแดง
Monkey Pod เปิดบริการแล้ววันนี้ ระหว่างเวลา 11.00–20.00 น. สอบถามที่โทร.02-115-9830 หรือ https://www.facebook.com/Monkeypodbkk และ Line Official account : @monkeypod